ตอนที่ 81: บอกทุกอย่าง
เมื่อพวกเขาเห็นห้องพักที่กว้างขวางและการตกแต่งภายในที่หรูหรา ทุกคนก็ตกตะลึงอีกครั้ง พวกเขาไม่กล้าเดินเข้าไปข้างใน ได้แต่หยุดที่ประตู
พวกเขาเคยเห็นบ้านที่กว้างและตกแต่งหรูหรามาก่อน นั่นก็คือบ้านของกู้ฉินเซียง
แต่เมื่อพวกเขาไปที่บ้านของกู้ฉินเซียง พวกเขารู้สึกประหม่าและไม่รู้จะวางตัวอย่างไร ถ้าหากเลือกได้ พวกเขาคงไม่ไปที่บ้านกู้ฉินเซียง
แน่นอนว่ากู้ฉินเซียงก็ไม่ชอบพวกเขาเช่นกัน
“ทำตัวตามสบายเลยค่ะ ไม่ต้องประหม่า เข้ามาสิคะ! หนูจะเล่าอะไรให้ฟัง” กู้หนิงวางของลง เธอดึงกู้ม่านและกู้ชิงให้เข้ามาในห้องนั่งเล่น
กู้ชิงยังรู้สึกประหม่าเล็กน้อย ในขณะที่กู้ม่านรู้สึกผ่อนคลาย เพราะเธอรู้แล้วว่าลูกสาวซื้อบ้านหลังนี้ ถึงแม้เธอจะไม่รู้ว่าทำไมกู้หนิงถึงสามารถซื้อบ้านแพงๆแบบนี้ได้ แต่เธอเลือกที่จะเชื่อในตัวลูกสาว
เจียงซู่และเจียงซินหยูเดินตามเข้ามาช้าๆ
“นั่งก่อนสิคะ” กู้หนิงบอก แต่พวกเขายังคงยืนเก้ๆกังๆ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะกลัวว่าจะทำโซฟาสกปรก
“นั่งกันเถอะ” กู้ม่านนั่งลงอย่างช้าๆ จากนั้นทุกคนก็นั่งลงตามเธอ แต่ยังรู้สึกไม่สบายใจ
“ป้าคะ ลุงคะ จำที่หนูบอกเมื่ออาทิตย์ที่แล้วได้ไหมคะ? ถ้าหนูรวยขึ้นมา หนูจะทำให้ป้ากับลุงและซินหยูมีชีวิตที่ดี” กู้หนิงเอ่ยถาม
ได้ยินแบบนั้นทั้งกู้ชิงและเจียงซู่ก็เอาแต่จ้องกู้หนิง พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คำพูดของกู้หนิงในวันนั้น เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้เหรอ
พวกเขาไม่อยากจะเชื่อว่ากู้หนิงจะกลายเป็นคนรวยขึ้นมาในระยะเวลาสั้นๆ
ดังนั้นกู้หนิงจึงบอกพวกเขาเหมือนที่บอกกับกู้ม่าน ครอบครัวกู้ชิงต่างประหลาดใจและทึ่งกับเรื่องราวที่ได้รับฟัง
หลานสาวของพวกเขาได้ช่วยชีวิตผู้ชายคนหนึ่งเอาไว้ มีเงินสิบล้านหยวน และยังวางแผนจะทำธุรกิจ?
“ก็อย่างที่หนูพูดไปแล้ว เมื่อวันใดที่หนูรวยขึ้นมา หนูจะทำให้ชีวิตของครอบครัวป้าดีขึ้น ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่หนูจะทำตามสัญญา หนูซื้อบ้านสองหลังขนาดพื้นที่เท่ากัน อีกหลังอยู่ตรงข้ามกับหลังนี้”
“หลังนี้สำหรับหนูกับแม่ ฝั่งตรงข้ามของครอบครัวป้าค่ะ ที่หนูไม่ได้บอกก่อนเพราะหนูยังไม่มีเอกสารครบ รบกวนป้าเอาทะเบียนบ้านและทะเบียนสมรสมาที่นี่พรุ่งนี้ด้วย หลังจากดำเนินเอกสารเรียบร้อยแล้ว พวกป้าก็ย้ายเข้ามาได้เลย บ้านตกแต่งพร้อมอยู่แล้วค่ะ สิ่งที่ขาดคือพวกของใช้ประจำวันค่ะ” กู้หนิงกล่าว
สิ้นคำพูดกู้หนิง ห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ
“นี่ ป้า ป้ากำลังฝันไปรึเปล่า?” กู้ชิงถาม มันยากมากที่จะเชื่อ เธอหันไปหยิกแขนเจียงซู่เต็มแรง เจียงซู่ตะโกนร้องด้วยความเจ็บ
กู้ชิงถามเขา “เจ็บรึเปล่า?”
“ลองหยิกตัวเองดูสิ!” เจียงซู่ตอบ เขาคงไม่ร้องถ้าหากมันไม่เจ็บ
กู้ชิงมองค้อนเจียงซู่ แน่นอนว่าเธอไม่มีทางทำแบบนั้นกับตัวเองหรอก
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ทั้งกู้หนิงและกู้ม่านอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง
“เรื่องจริงสิ หนิงหนิงบอกว่าเธออยากจะรอบอกทุกคนจนกว่าจะซื้อบ้านเสร็จแล้ว ดังนั้นพวกเราจึงเก็บเป็นความลับ” กู้ม่านอธิบาย
“แต่ บ้านที่นี่ไม่ได้ถูกๆนะ ต้องใช้เงินมากแค่ไหนถึงจะซื้อที่นี่ได้!” กู้ชิงถามด้วยความสับสันงุนงง
ถึงแม้พวกเขาจะจนและเรียนไม่จบ แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้อะไรเลย
แน่นอนว่ากู้ม่านก็สงสัยในเรื่องนี้เหมือนกัน
ดังนั้นกู้หนิงจึงรีบอธิบายว่า “เอ่อ หนูกำลังจะเปิดร้านขายพวกอัญมณี เครื่องประดับต่างๆ ดังนั้นหนูเลยไปที่เมือง G สุดสัปดาห์นี้เพื่อซื้อวัตถุดิบ วัตถุดิบก็คือหินที่อาจมีหยกอยู่ข้างใน และไม่มีใครรู้ว่าหินก้อนไหนมีหยกก้อนไหนไม่มีหยก มันจึงถูกเรียกทั่วไปว่าการพนัน ใครก็ตามที่ตัดเอาหยกออกมาได้ ก็สามารถขายได้ แต่มันก็ยากมากจริงๆ หนูไม่รู้ว่าหนูโชคดีหรืออะไร หนูซื้อก้อนหินห้าก้อน โชคดีมีหยกอยู่ในหินสามก้อน หนูขายไปก้อนหนึ่งขนาดเท่าลูกแอปเปิ้ลและขายได้มากกว่ายี่สิบล้านหยวน! หนูใช้เงินนั้นมาซื้อบ้าน ส่วนที่เหลือหนูฝากไว้กับมู่เค่อและอีกอันหนูจะใช้ทำเครื่องประดับให้ทุกคน”
พวกเขายังไม่ทันหายจากอาการตกใจ พอได้ฟังคำอธิบายของกู้หนิงยิ่งตกใจหนักขึ้นไปอีก
อะไรนะ? มากกว่ายี่สิบล้านหยวน?
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินวิธีการหาเงินที่ง่ายดายอะไรแบบนี้
ผ่านไปสักพักใหญ่ๆ ทุกคนก็กลับมามีสติอีกครั้ง
“หนิงหนิง ลูกนี่ดื้อจริงๆ กล้าเล่นพนันแบบนั้นได้ยังไง!” กู้ม่านดุกู้หนิงเบาๆ เธอเป็นห่วงลูกสาว เธอได้ยินมาว่าการพนันหินเป็นอะไรที่เสี่ยงมาก มีคนรวยเพราะมันและจนเพราะมันมานับไม่ถ้วน
“แม่ อย่ากังวลไปเลยค่ะ หนูมีวิธีรับมือ” กู้หนิงปลอบแม่ของเธอ
“เห้อ…” กู้ม่านไม่รู้จะพูดอะไร เธอยังคงเลือกเชื่อมั่นในตัวลูกสาว
กู้หนิงทำเงินได้มากมาย ครอบครัวกู้ชิงก็รู้สึกยินดีมีความสุขไปกับเธอด้วย แต่เธอซื้อบ้านราคาแพงให้พวกเขา มันทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัดใจนิดหน่อย
“หนิงหนิง ป้ารู้ว่าหนูจิตใจดี แต่บ้านที่นี่มันแพงเกินไป พวกป้า…” กู้ชิงต้องการจะปฏิเสธไม่ยอมรับ
“ป้าคะ หนูรู้ดีว่าป้าช่วยหนูกับแม่มามากแค่ไหนตั้งแต่หนูยังเด็ก ได้โปรดรับมันไว้เถอะค่ะ พวกเราคือครอบครัวเดียวกัน หนูไม่อาจทนเห็นป้าอาศัยอยู่ในบ้านเช่าและมีชีวิตลำบากอีกต่อไปแล้ว” กู้หนิงพูดขัดกู้ชิงขึ้นมาก่อน
“ใช่แล้วล่ะ รับมันไว้เถอะค่ะพี่ พวกเรามีกันแค่นี้ ยังไงซะพวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน” กู้ม่านสำทับ
ทุกคนเศร้าใจในบัดดล
ใช่แล้ว! ตอนนี้พวกเขามีกันแค่นี้ สมาชิกตระกูลกู้ที่เหลือไม่ชอบพวกเขาและทำตัวเหินห่างไม่อยากนับญาติ
“ดี ดี” กู้ชิงตอบในที่สุด เธอปาดน้ำตาด้วยความสุข
“แม่คะ พวกเราสามารถอยู่ที่นี่ได้เลยใช่ไหมคะ?” เจียงซินหยูถามด้วยความคาดหวังในสายตาของเธอ
ใครๆก็อยากมีชีวิตที่ดีกันทั้งนั้น
กู้ชิงและสามีรู้สึกผิดในใจที่ไม่สามารถให้ชีวิตที่ดีแก่ลูกสาวได้
ตอนที่ 82: สนับสนุนเจียงซู่ให้เริ่มต้นทำธุรกิจ
“จ้ะ พวกเราจะอยู่ที่นี่หลังจากพรุ่งนี้” กู้ชิงตอบด้วยความรักในแววตา
เมื่อได้รับคำยืนยันจากแม่ เจียงซินหยูก็ตื่นเต้นดีใจกระโดดตัวลอย
“ว้าว สุดยอดไปเลย!”
เมื่อเห็นเจียงซินหยูมีความสุข เจียงซู่และกู้ชิงก็พลอยมีความสุขไปด้วย
“เอาล่ะ ตอนนี้ก็เกือบสองทุ่มแล้ว หนูหิวแล้ว แม่ ป้า ได้โปรดแสดงฝีมือทำอาหารให้พวกเราทานด้วยนะคะ” กู้หนิงเอ่ย
“โอ้ะ จะสองทุ่มแล้ว พวกเราต้องทำกับข้าวแล้ว!” กู้ชิงเด้งลุกจากโซฟาทันทีและดึงแขนกู้ม่านพากันวิ่งไปที่ห้องครัว
กู้หนิงอยากจะคุยกับเจียงซู่ ดังนั้นเธอจึงไม่เข้าไปช่วยและหยุดเจียงซู่ไม่ให้ลุก
“ลุงคะ หนูมีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย” กู้หนิงเปิดประเด็น
“ได้สิ” เจียงซู่ตอบ เขาจึงหันไปบอกเจียงซินหยูให้เข้าไปช่วยในครัว
“ลุงคะ ตอนนี้พวกเราไม่ได้จนอีกต่อไปแล้ว หนูไม่อยากให้ลุงไปทำงานเป็นกรรมกรอีก และหนูรู้ว่าลุงไม่อยากเป็นคนว่างงาน หนูเองก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ในอดีตพวกเรามีชีวิตที่ลำบากมาก แต่ตอนนี้พวกเราสามารถใช้ชีวิตดีๆได้แล้ว ดังนั้นหนูเลยอยากจะถามลุงว่าลุงสนใจจะอยากจะทำธุรกิจอะไรไหมคะ? ธุรกิจเล็กๆก็ได้ค่ะ ตราบใดที่มีเงินมาเลี้ยงชีพ ไม่ว่าลุงอยากจะทำอะไร หนูจะเป็นคนช่วยเรื่องเงินลงทุนให้ลุงเองค่ะ” กู้หนิงเอ่ย
ก็จริงอยู่ที่เจียงซู่ไม่ใช่คนฉลาดและทันคน เขาอาจจะไม่มีความสามารถในการทำธุรกิจ อย่างไรก็ตามเขาทำงานหนักมาตลอดชีวิตและไม่เคยย่อท้อ เขาเป็นคนชอบเรียนรู้ ตราบใดที่เขาตั้งใจจริง กู้หนิงเชื่อว่าเขาสามารถทำได้อย่างแน่นอน
ตัวเจียงซู่เองก็อยากจะทำธุรกิจ แต่เขาก็รู้สึกไม่สบายใจเรื่องเงิน กู้หนิงให้บ้านพวกเขาแล้ว เขารู้สึกละอายใจถ้าหากยังขอเงินจากกู้หนิงด้วย
กู้หนิงรู้ว่าเจียงซู่กำลังคิดอะไร เธอให้กำลังใจเขา “ลุงคะ ถ้าเราจนจะไม่มีใครเคารพเรา ลุงเป็นผู้ชายคนเดียวของครอบครัวเรา ลุงต้องเข้มแข็งและแกร่งพอที่จะปกป้องพวกเรา!”
กู้หนิงเพียงแต่พูดให้กำลังใจเจียงซู่ เธอไม่ได้มีความตั้งใจที่จะเปิดเผยเรื่องบางอย่างของเธอ ตอนนี้เธอยังไม่มีกำลังพอจะโค่นล้มตระกูลถังได้
การจะทำลายตระกูลถัง เงินอย่างเดียวไม่พอ เธอต้องการอำนาจและการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่รัฐบาล มันเป็นเรื่องยากที่จะฟาดเงินเจ้าหน้าที่ให้ออกจากตำแหน่ง แต่เรื่องใช้อำนาจทำลายบริษัทนั้นง่ายกว่ามาก
ดังนั้นเครือข่ายที่ดีจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด กู้หนิงจึงวางแผนที่จะสร้างเครือข่ายในอนาคต
เจียงซู่ซาบซึ้งใจ สิ่งที่กู้หนิงพูดนั้นส่งผลต่อเขาอย่างมาก ใช่แล้ว! แค่เพราะพวกเขาจนเลยไม่มีใครให้ความเคารพและให้เกียรติ โดยเฉพาะกู้ม่านและกู้ชิง พวกเธอถูกดูถูกเหยียดหยามจากคนในตระกูลกู้ด้วยกันมาเป็นเวลานาน
ถ้าหากกู้ม่าน กู้ชิงหรือเจียงซู่มีอำนาจขึ้นมาบ้าง สมาชิกตระกูลกู้ที่เหลือก็คงไม่กล้าดูถูกพวกเขาอีก
เจียงซู่เต็มไปด้วยแรงปรารถนา แต่เขาก็ยังรู้สึกละอายใจเรื่องเงินอยู่ดี
“ลุงคะ หนูรู้ว่าลุงกังวลเรื่องเงิน เอาอย่างนี้ดีไหมคะ ถ้าหนูช่วยลุงเรื่องเงิน ลุงก็ให้หุ้นกับแม่หนูสักยี่สิบเปอร์เซ็นของบริษัทลุงหรือธุรกิจของลุง ลุงต้องทำงานหนักแล้วล่ะค่ะ อย่าดูถูกหุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นนะคะ ถ้าธุรกิจของลุงโตขึ้น หุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นก็เท่ากับที่หนูจ่ายให้ลุง ดังนั้นถือว่าหนูให้ลุงยืมเงินละกันค่ะ และจะได้ไม่ต้องรู้สึกถูกกดดันอะไร” กู้หนิงกล่าว
ถึงแม้เจียงซู่จะเกือบถูกกู้หนิงโน้มน้าวได้แล้ว เขาก็ยังมีความกังวลอยู่บ้างเล็กน้อย
“ถ้าหากบริษัทไม่มีผลกำไรล่ะ?”
“ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ในการทำธุรกิจ ไม่มีอะไรได้มาโดยไม่เสี่ยงหรอกค่ะ ลุงไม่ต้องห่วงเรื่องเงินนะคะ หนูช่วยลุงได้” กู้หนิงกล่าวอย่างจริงใจ เธอมีความมั่นใจ
ใช่ เธอสามารถช่วยเขาได้
เธอไม่ต้องการให้เจียงซู่ทำธุรกิจแบบเดียวกับสิ่งที่เธอทำ เป้าหมายของเธอคือการสร้างอาณาจักรธุรกิจพันล้านหรือหมื่นล้าน หากเจียงซู่ประสบความสำเร็จในเมือง F เงินหลายร้อยล้านหยวนก็น่าจะเพียงพอแล้ว
ดังนั้นกู้หนิงจึงวางแผนลงทุนสิบล้านหยวนในธุรกิจของเจียงซู่ ตอนนี้เธอมีหลายร้อยล้าน เธอสามารถช่วยเจียงซู่ได้
ถึงแม้ว่ากู้หนิงจะไม่เข้าไปก้าวก่ายธุรกิจของเจียงซู่ แต่ถ้าหากเขาเกิดปัญหาขึ้นมา เธอจะไปอยู่ข้างๆคอยช่วยเขา
กู้ม่านและกู้ชิงได้ยินบทสนทนาระหว่างกู้หนิงและเจียงซู่ในห้องครัว กู้ชิงร้องไห้ด้วยความดีใจไปเรียบร้อยแล้ว
“หนิงหนิง หนูเป็นเด็กดีเหลือเกิน”
“ใช่ หนิงหนิงทำสิ่งดีๆเพื่อพวกเรา พวกเราไม่ควรทำให้เธอผิดหวัง” กู้ม่านเอ่ย
กู้ชิงเข้าใจสิ่งที่กู้ม่านพูด เธอเดินออกมาพูดกับเจียงซู่ว่า “ซู่ รับไว้เถอะ พวกเราต้องเข้มแข็งและแข่งแกร่ง จะได้ไม่มีใครมาเอาเปรียบพวกเราอีก!”
เมื่อได้รับคำสนับสนุนจากภรรยา เจียงซู่ก็ถูกโน้มน้าวได้สำเร็จ
“ได้ ลุงจะลองดูสักตั้ง” ที่จริงแล้วเขามีไอเดียอยากจะทำธุรกิจเองอยู่แล้ว แต่เขาไม่มีเงินทุน
“ลุงมีเพื่อนคนหนึ่งชวนลุงไปทำธุรกิจวัสดุก่อสร้างด้วยกัน ลุงอยากจะไปทำกับเพื่อนลุงจริงๆในเวลานั้น แต่ลุงไม่มีเงิน ลุงเลยยอมแพ้ ภายในสามปีเพื่อนของลุงมีเงินหลายล้านหยวน ภรรยาและลูกของเขาล้วนสุขสบายไปด้วย พูดตามตรงแล้วลุงเองก็แอบอิจฉา” เจียงซู่พูดอย่างละอายใจ
วัสดุก่อสร้าง?
ได้ยินแบบนั้น ประกายแววตากู้หนิงก็สว่างวาบขึ้น อืม เป็นไอเดียที่ดี
กู้หนิงมีแผนจะลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และวัสดุก่อสร้างจะมีความสำคัญอย่างมากต่อธุรกิจของเธอ คงจะดีถ้าลุงสามารถช่วยเธอได้
“หนูคิดว่าเป็นไอเดียที่ดีค่ะ ลุงคะ หนูเห็นด้วยกับลุงว่าทำธุรกิจวัสดุก่อนสร้างจะดีกว่า หนูจะลงทุนสิบล้านหยวน” กู้หนิงเอ่ย
“อะไรนะ? สิบล้านหยวน?” เจียงซู่คาดไม่ถึง เขาคิดว่าหนึ่งล้านหยวนก็เพียงพอแล้ว
“ลุงคะ ในเมื่อเราจะทำอะไรแล้ว ทำไมไม่เริ่มทำใหญ่ๆไปเลยล่ะคะ”
“ดี หนิงหนิง ลุงจะไม่ทำให้หลานผิดหวัง” เจียงซู่ตัดสินใจแล้ว เขาจะทำให้ดีที่สุด
“ป้าคะ หนูว่าป้าควรลาออกจากงานด้วย ป้าอยากจะช่วยลุงทำธุรกิจหรือเป็นแม่บ้าน หรือเปิดร้านเล็กๆก็ได้ค่ะ ตามแต่ป้าอยากจะทำ ผู้หญิงเราควรจะดูแลตัวเอง เมื่อก่อนพวกเราจน แต่ตอนนี้พวกเราไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องเงินอีกแล้ว! แล้วก็พรุ่งนี้หนูจะไม่ไปโรงเรียน หลังจากทำเรื่องซื้อบ้านพรุ่งนี้แล้ว พวกเราไปซื้อครีมบำรุงผิว เสื้อผ้า เครื่องประดับ และทำผมกันดีกว่าค่ะ” กู้หนิงกล่าว