ตอนที่ 75: รับรู้เฉียบไว
เมื่อบริกรเปิดประตูเข้ามา กู้หนิงเห็นกลุ่มผู้ชายเดินผ่าน เธอรู้สึกคุ้นๆกับรูปร่างผู้ชายที่เดินนำหน้า
เมื่อเธอหันกลับไปมองอีกครั้ง พวกเขาก็เดินไปแล้ว
กู้หนิงไม่รู้จักกลุ่มผู้ชายเหล่านั้น และส่วนน้อยที่สามารถทำให้เธอประทับใจไม่รู้ลืม ดังนั้นเธอจึงรู้ทันทีว่าเขาเป็นใคร
ผู้ชายคนนั้นต้องเป็นคนเดียวกับที่ให้หยกจักรพรรดิกับเธอ ช่างบังเอิญอะไรเช่นนี้ เขาอยู่ที่นี่ด้วย
กู้หนิงไม่อยากจะคิดอะไรอีก เธอเอนหลังพิงเบาะและเลือกดูเมนู เธอสั่งสองอย่างจากนั้นก็ส่งเมนูให้โจวเจิ้งหง
“ลุงโจว ลุงสั่งอาหารที่ลุงชอบด้วยสิคะ”
โจวเจิ้งหงรับเมนูมา เขาสั่งอีกสองอย่าง จากนั้นก็ส่งเมนูคืนบริกร เมื่อบริการเดินออกไป โจวเจิ้งหงก็หยิบเอากระเป๋าใส่กระดาษออกมา แล้วยื่นให้กู้หนิง
“บอส ผมร่างสัญญาแล้ว รบกวนตรวจดูด้วยครับ ถ้าหากมีอะไรไม่ถูกต้อง ผมจะได้แก้ไขมัน”
“ดีค่ะ” กู้หนิงรับมันมา เธอเปิดกระเป๋าเอกสารและเริ่มอ่านเนื้อหาของเอกสารด้วยพลังตาทิพย์ มันง่ายมากสำหรับกู้หนิงที่จะอ่านสัญญาได้รวดเร็ว แต่อยู่ต่อหน้าโจวเจิ้งหง กู้หนิงต้องแกล้งทำเป็นว่าใช้เวลาในการอ่านเอกสารให้นานขึ้นเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ
สัญญามีเพียงสองหน้ากระดาษ ดังนั้นถึงแม้กู้หนิงจะตั้งใจอ่านให้ช้าลง เธอก็ยังใช้เวลาแค่สองนาทีในการอ่าน
สัญญาการจ้างงานระหว่างกู้หนิงและโจวเจิ้งหงระบุว่า โจวเจิ้งหงเป็นผู้บริหารบริษัทหยกบิวตี้จิวเวอรี่ เขามีสิทธิ์ในการดำเนินการ ทุนจดทะเบียนอยู่ที่หนึ่งร้อยล้านหยวน เงื่อนไขเงินเดือนเพิ่มเติม โจวเจิ้งหงเป็นเจ้าของหุ้นจำนวนยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของบริษัท
“ดีค่ะ ฉันคิดว่ามันดีแล้ว” กู้หนิงเอ่ย เธอเซ็นสัญญาจากนั้นก็ยื่นให้โจวเจิ้งหง โจวเจิ้งหงก็เซ็นสัญญา
กู้หนิงอดไม่ได้ที่จะใช้ตาทิพย์ส่องดูห้องส่วนตัวที่อยู่ถัดไป เธอเห็นผู้ชายห้าคนที่เธอพบในลิฟต์นั่งอยู่ที่โต๊ะ มีกล่องสองกล่องวางไว้บนโต๊ะต่อหน้าคนสองกลุ่ม
พวกเธออยู่ในร้านอาหารสุดหรูและผนังเก็บเสียงได้อย่างดีเยี่ยม ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ยินอะไรเพราะพวกเขาพูดคุยกันเสียงเบา เธอเห็นเพียงว่าพวกเขากำลังทำอะไรเท่านั้น
พวกเขาเปิดกล่องออก กล่องใบแรกเต็มไปด้วยถุงแป้งสีขาว ในขณะที่อีกกล่องเต็มไปด้วยธนบัตรและแท่งทอง
เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังตกลงเจรจาซื้อขาย
ถึงแม้กู้หนิงจะรู้ว่าพวกเขากำลังทำสิ่งผิดกฎหมาย แต่เธอรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องของเธอ ยิ่งไปกว่านั้นมีผู้ชายอย่างน้อยสิบคนที่มีปืน กู้หนิงไม่แข่งแกร่งพอจะสู้พวกเขาได้ทั้งหมด
กู้หนิงถอนหายใจ ยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบ
อย่างไรก็ตาม ในห้องส่วนตัวที่อยู่ติดกับห้องถัดจากห้องกู้หนิง มีชายสามคน หนึ่งในนั้นคือเลิ่งเชาถิง
เลิ่งเชาถิงสวมชุดสีดำ เขาตัวสูงและยากจะอธิบายอารมณ์ในขณะนี้ได้ เขาสวมหูฟังกำลังฟังเสียงจากห้องที่ติดกันและพยายามฟังบทสนทนา
ในระหว่างนั้นก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาพูดกับเลิ่งเชาถิง “กัปตัน นอกจากพวกเราและเป้าหมายแล้ว มีคนอยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลขสามอยู่ในชั้นนี้ด้วย ห้องหมายเลขสามอยู่ถัดจากห้องเป้าหมาย ผมแจ้งให้ผู้จัดการเชิญพวกเขาให้ออกไปแล้วครับ”
“ดี” เลิ่งเชาถิงตอบสั้นๆและไม่พูดอะไรอีก
เพราะพวกเขาไม่รู้สถานที่นัดหมายล่วงหน้า พวกเขาจึงไม่ได้จัดเตรียมไว้ก่อน พวกเขาทำได้เพียงตรวจสอบสถานการณ์รอบๆหลังจากได้รับการยืนยันสถานที่นัดหมาย แม้แต่แมลงเล็กๆก็ถูกจัดฉากโดยเลิ่งเชาถิง เขาส่งคนปลอมตัวเป็นบริกร
น๊อค น๊อค
ในขณะนั้นประตูห้องส่วนตัวของกูหนิงก็มีเสียงเคาะประตูและจากนั้นก็ถูกผลักออกกู้หนิงคิดว่าเป็นพนักงานเสิร์ฟ แต่เธอก็แปลกใจ มีผู้ชายอายุสามสิบเดินเข้ามา ทั้งกู้หนิงและโจวเจิ้งหงต่างพากันขมวดคิ้วด้วยความฉงน
หนึ่งในนั้นเอ่ยขอโทษขอโพย “ยินดีต้อนรับคุณผู้ชายคุณผู้หญิง ผมเป็นผู้จัดการโรงแรม ผมต้องขอโทษด้วยที่เข้ามารบกวนท่านทั้งสอง”
ผู้ชายที่มากับผู้จัดการก้าวเข้ามายืนอยู่หน้ากู้หนิง เขาดึงเอกสารออกมาและยื่นให้เธอ “ยินดีที่ได้รู้จักครับ นี่คือบัตรประจำตัวทหารของผม กองกำลังของเรากำลังตรวจสอบชั้นนี้ เพื่อความปลอดภัยของคุณเอง ผมหวังว่าคุณจะย้ายลงไปยังห้องทานอาหารส่วนตัวชั้นล่าง ขอโทษในความไม่สะดวกด้วยครับ”
เมื่อรู้แบบนั้นโจวเจิ้งหงก็ตระหนกตกใจในระหว่างที่กู้หนิงแปลกใจเล็กน้อย มันต้องเกี่ยวกับปฏิบัติการจับกลุ่มผู้ชายห้องข้างๆแน่นอน
อย่างไรก็ตามแต่พวกเขามาจากกองทัพจริงรึเปล่า? อืม เขาก็ดูเหมือนทหารจริงๆ
“ได้สิคะ” กู้หนิงไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยว จากนั้นก็ออกไปพร้อมกับโจวเจิ้งหง ตามมาด้วยผู้จัดการโรงแรมและเจ้าหน้าที่ทหาร
เมื่อพวกเธอออกจากห้อง ผู้ชายสองคนที่ยืนอยู่ข้างนอกห้องหมายเลขสี่ก็หันมาดู ผู้จัดการโรงแรมเกิดตื่นกลัวขึ้นมา ใบหน้าของเขาซีดเผือดเพราะเขารู้ว่าผู้ต้องสงสัยอยู่ในห้องนั้น
กู้หนิงและเจ้าหน้าที่ทหารรับรู้ได้ว่าอาจมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น ปฏิกิริยาของผู้จัดการโรงแรมเรียกความสนใจจากผู้ชายพวกนั้น ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ทหารก็ก้าวเข้าไปหาผู้จัดการโรงแรมและบังเขาเอาไว้ เขาส่งสายตาเตือนผู้จัดการ
อย่างไรก็ตามผู้ชายสองคนที่ยืนอยู่ด้านนอกก็สังเกตเห็นสีหน้าของผู้จัดการ พวกเขาได้กลิ่นไม่ดี พวกเขาจึงพูดว่า
“เดี๋ยวก่อน”
ผู้จัดการตัวสั่นแต่เพราะสายตาเตือนจากเจ้าหน้าที่ เขาบังคับตัวเองให้ใจเย็นลงและยิ้มอย่างฝืนๆ
“ยินดีต้อนรับครับ มีอะไรให้ผมรับใช้?” เขาตอบชายที่เรียกเอาไว้
ผู้ชายสองคนหันไปสบตากัน จากนั้นก็เดินเข้ามาหาพวกเธอ
กู้หนิงและเจ้าหน้าที่ทหารต่างรู้สึกถึงสัญญาณอันตราย พวกเขาคิดว่าอาจมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ พวกเธอได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่แสดงพิรุธ
ผู้ชายสองคนเดินเข้ามาจากนั้นก็เล็งปลายกระบอกปืนมายังพวกเธอ “เข้าไปข้างใน!” พวกขาตะคอกอย่างเงียบๆ
ผู้จัดการร้านและโจวเจิ้งหงหน้าถอดสี พวกเขาตัวสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัวกู้หนิงและเจ้าหน้าที่ทหารยังรักษาความนิ่งไว้ได้ ไม่ทำตัวให้เกิดพิรุธ พวกเขาให้ความร่วมมือและแสดงออกว่าหวาดกลัว
พวกเธอถูกบังคับให้กลับเข้าไปในห้องส่วนตัวอีกครั้ง
ห้องหมายเลขห้าที่เลิ่งเชาถิงอยู่ เขาติดตั้งกล้องไว้ด้านนอก ดังนั้นเขาจึงสามารถเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
“กัปตัน พวกเราควรจะทำยังไงดี? พวกมันรู้ตัวแล้ว!” ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยอย่างกังวล
“อดทนไว้ก่อน” เลิ่งเชาถิงตอบ
เลิ่งเชาถิงจำร่างเล็กๆท่ามกลางกลุ่มผู้ชายที่ทางเดินได้ เขาหงุดหงิดเล็กน้อยและไม่สบายใจ ดูเหมือนว่าเขากังวลความปลอดภัยของเธอ
ภายในห้องหมายเลขสาม
“คุณเพิ่งเห็นพวกเราทำไมต้องทำท่าทางหวาดกลัวขนาดนั้น?” ผู้ต้องสงสัยถามผู้จัดการโรงแรม เขาจำผู้จัดการโรงแรมได้ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกผิดสังเกต
ตอนที่ 76: เสียงปืนในร้านอาหาร
“เอ่อ ไม่มีอะไรครับ” ผู้จัดการโรงแรมปฏิเสธ เขาพยายามใจเย็นแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ผู้ชายสองคนไม่เชื่อเขา
“บอกคนในห้องว่าเรามีปัญหาแล้ว” คนร้ายอีกคนพูดขึ้น จากนั้นคนร้ายอีกคนก็หมุนตัวเตรียมจะเดินออกไป
กู้หนิงมองไปที่ปืน เขายังไม่ได้ขึ้นลำกล้อง ถ้าหากกู้หนิงเข้าไปแย่งปืนจากเขา เขาก็ไม่มีโอกาสจะยิงเธอได้ พูดอีกนัยหนึ่งมันปลอดภัยสำหรับกู้หนิงที่จะทำอย่างนั้น
กู้หนิงมองไปที่เจ้าหน้าที่ทหารส่งสายตาให้เขารับรู้ เขาเข้าใจสัญญาณที่กู้หนิงส่งมาได้ทันที
เจ้าหน้าที่ทหารประหลาดใจ เด็กสาวคนนี้ไม่กลัวเลยสักนิด! หนำซ้ำจะเป็นคนลงมือก่อน บอกตามตรงเจ้าหน้าที่ทหารยังไม่เชื่อในความสามารถของกู้หนิง เขาลังเลเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นกู้หนิงที่มองมาแบบไม่ให้ปฏิเสธ เขาจึงรู้สึกมั่นใจขึ้นมา
จากนั้นเขาก็พยักหน้ายืนยัน
เด็กสาวคนนี้กล้าแย่งปืนตรงๆจากคนร้าย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเธอทั้งบ้าบิ่นและมีความสามารถ
จากนั้นกู้หนิงก็เริ่มแผนการทันที เธอเข้าไปประชิดตัวคนร้ายและบิดข้อมือคนร้ายเสียงดัง ‘กรอบ’ มือของคนร้ายหักทันที
ในระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ทหารก็หยิบปืนออกมายิงไปที่คนร้ายอีกคน
ก่อนที่คนร้ายจะส่งเสียงร้องออกมา กู้หนิงก็ยัดทิชชู่เข้าไปในปากของเขา จากนั้นเธอก็เงื้อสันมือตบลงไปที่ท้ายทอยของเขา คนร้ายที่ถูกแย่งปืนสลบเหมือดทันที
ปืนของเจาหน้าที่ทหารมีที่เก็บเสียง มันจึงไม่ก่อให้เกิดเสียงดัง เขายิงเข้าไปที่หัวคนร้าย คนร้ายร่วงลงไปนอนที่พื้น
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนยากจะสังเกตเห็นทัน
ทั้งผู้จัดการโรงแรมและโจวเจิ้งหงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ พวกเขารู้สึกว่ากำลังฝันอยู่
เจ้าหน้าที่ทหารก็ประหลาดใจด้วย เขาคาดไม่ถึงว่าเด็กสาวจะเก่งขนาดนี้ เธอเคลื่อนไหวได้เร็วมาก
เขาอยู่ในกองทัพมาไม่ต่ำกว่าสิบปีและเป็นเจ้าหน้าที่บัญชาการอาวุโส และถูกฝึกอย่างทรหดมาไม่น้อยกว่าสิบปี การฝึกแบบไหนที่เด็กสาวคนนี้เคยผ่านมา? เจ้าหน้าที่ทหารคิดในใจ
แม้ว่าเขาจะประหลาดใจแค่ไหน เขาก็ไม่ได้ถามเธอ มันไม่ใช่ธุระอะไรของเขายิ่งไปกว่านั้น เขามีปลาตัวใหญ่ให้ตกอยู่ตอนนี้
“พวกคุณทั้งหมดพากันออกไปเดี๋ยวนี้!” เจ้าหน้าที่ทหารเอ่ย
“สายไปแล้ว” กู้หนิงเอ่ย เธอเห็นคนกำลังออกมาจากห้องทานอาหารส่วนตัวหมายเลขสี่
ทันทีที่เขาออกมา เขาจะเห็นว่าคนที่เฝ้าอยู่ข้างนอกหายไป
ขณะนั้นเองกู้หนิงก็วิ่งออกไปโดยไม่พูดอะไร ทุกคนที่เหลือภายในห้องต่างพากันงุนงง พวกเขาไม่รู้ว่าเธอคิดจะทำอะไร
โจวเจิ้งหงอยากจะออกไปดูเพราะเขาเป็นห่วงความปลอดภัยกู้หนิง เขาถูกเจ้าหน้าที่ทหารหยุดเอาไว้ก่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารก็ตามเธอออกไป
เลิ่งเชาถิงที่อยู่อีกด้านสังเกตเห็นกู้หนิงวิ่งออกมา
เมื่อเห็นว่ากู้หนิงออกมา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนที่อยู่ในห้องหมายเลขสามปลอดภัย แต่ทำไมกู้หนิงถึงวิ่งออกมาล่ะ?
ท่ามกลางความสับสนงุนงง กู้หนิงก็รีบไปที่ประตูห้องอาหารส่วนตัวหมายเลข 4 ในเวลาเดียวกันประตูก็ถูกเปิดออกและชายคนหนึ่งเดินออกมา
ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะสังเกตเห็นกู้หนิง กู้หนิงก็จู่โจมเขาก่อน เขาหมดสติไปในช่วงเวลาสั้นๆและล้มไปกองที่พื้น จากนั้นกู้หนิงก็ฉวยเอาปืนเขามา
เห็นแบบนั้นเลิ่งเชาถิงและคนของเขาที่กำลังจ้องดูในจอ และเจ้าหน้าที่ทหารที่ตามกู้หนิงออกมาก็อ้าปากค้างด้วยความคาดไม่ถึง
พวกเขาเข้าใจแล้วว่าทำไมกู้หนิงถึงพูดว่าสายไปแล้ว
แต่เธอรู้ได้ยังไงว่ามีผู้ชายเดินออกมา?
เมื่อรู้ว่ากู้หนิงปลอดภัย เลิ่งเชาถิงก็โล่งอก ตอนนี้ถึงเวลาพวกเขาออกโรงแล้วผู้ชายสามคนเดินออกมาจากห้องหมายเลขห้าทันที
กู้หนิงสบตากับเลิ่งเชาถิงโดยบังเอิญ ใบหน้าอันหล่อเหลาเย็นชาของทำให้กู้หนิงหัวใจเต้นสะดุด แต่เธอรู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะชื่นชมความหล่อของเขา
“กลับเข้าไปในห้อง” เลิ่งเชาถิงบอกกู้หนิง
“ฉันปกป้องตัวเองได้” กู้หนิงตอบ เธอไม่กลับเข้าไป
เลิ่งเชาถิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาดูไม่พอใจแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขามั่นใจว่าตราบใดที่เขาอยู่ที่นี่ เขาจะสามารถปกป้องเด็กสาวคนนี้ได้ จู่ๆหลังจากนั้นเลิ่งเชาถิงและคนของเขาก็วิ่งเข้าไปในห้องทานอาหารหมายเลขสี่ เสียงปืนก็ดังตามมา
เมื่อเสียงปืนยิงออกไปนัดแรกและกระหน่ำตามมาอีกหลายนัด ทั่วทั้งตึกต่างเกิดความโกลาหล ผู้คนต่างวิ่งกันหลบหนีพยายามซ่อนตัว
โจวเจิ้งหงและผู้จัดการโรงแรมต่างพากันหวาดกลัวและซ่อนใต้โต๊ะ
โจวเจิ้งหงห่วงกู้หนิงมาก แต่เขาไม่กล้าเดินออกไป นอกจากนี้กู้หนิงได้เตือนว่าไม่เห็นเขาออกไป
ไม่นานเสียงปืนก็หยุดลง
ในขณะเดียวกันก็มีเสียงไซเรนดังมาจากข้างล่าง ตำรวจได้รับแจ้งล่วงหน้าไว้แล้วและเข้ามาเก็บกวาดพื้นที่
แม้ว่ากู้หนิงจะไม่ได้เข้าไปในห้องหมายเลขสี่ เธอก็เห็นเหตุการณ์ที่อยู่ภายในห้องอย่างชัดเจน เธอใช้ตาทิพย์ของเธอส่องดู
เลิ่งเชาถิงและคนของเขามีเพียงสามคนเท่านั้น ในขณะที่อีกฝั่งมีเจ็ดถึงแปดคน การปรากฏตัวของเลิ่งเชาถิงและพวกเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นคนที่อยู่ในห้องจึงไม่ทันระวังตัวและถูกฆ่าตายทั้งหมด
เลิ่งเชาถิงและคนของเขาต่างปลอดภัยไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน
พวกเขาช่างเก่งกาจจริงๆ
ถึงภารกิจจะจบไปแล้ว เลิ่งเชาถิงก็ยังไม่จากไปทันที พวกเขารอตำรวจเขามาสานงานต่อ
กู้หนิงหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้องหมายเลขสาม เธอบอกโจวเจิ้งหงและผู้จัดการโรงแรมว่าทุกอย่างปลอดภัยแล้ว
“บอส คุณเป็นอะไรไหม?” โจวเจิ้งหงที่ได้ยินเสียงกู้หนิงก็เอ่ยถามขึ้น เขาขยับตัวออกมาจากใต้โต๊ะพร้อมด้วยผู้จัดการโรงแรม
เห็นแบบนั้นกู้หนิงก็รู้สึกอยากหัวเราะ เธอไม่ได้ตั้งใจจะล้อเลียนพวกเขา มันเป็นสงครามสาดกระสุน และเป็นที่เข้าใจได้ว่าคนทั่วไปก็ต้องหวาดกลัวเป็นธรรมดา
“ไม่เป็นอะไรค่ะ” กู้หนิงตอบ
“ผู้จัดการคะ ฉันว่าคุณควรจะปิดร้านอาหารสักพักก่อนสำหรับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น พวกเราจะไม่รบกวนคุณแล้ว” กู้หนิงเอ่ย
“ดะ ได้ ผมต้องขอประทานโทษจริงๆครับคุณหนู โอ้ แล้วก็ขอบคุณมากที่ช่วยผมเอาไว้” ผู้จัดการไม่ลืมว่ากู้หนิงได้ช่วยชีวิตเขา
“ฉันช่วยชีวิตตัวเองด้วยเหมือนกันค่ะ” กู้หนิงตอบ
จากนั้นกู้หนิงและโจวเจิ้งหงที่ยังไม่หายตกใจก็เดินออกไป
“เดี๋ยวก่อน”
เธอยังเดินไปได้ไม่ไกลเลิ่งเชาถิงก็เรียกเธอไว้ก่อน
“คะ มีอะไรคะ?” กู้หนิงหันมา เธอมองเลิ่งเชาถิงที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอ ด้วยดวงตาคู่สวยของเธอ น้ำเสียงที่มีเสน่ห์ ทำให้ผู้ชายที่อยู่แถวนั้นแทบจะอ่อนระทวย
หัวใจของเลิ่งเชาถิงเต้นผิดจังหวะ เด็กสาวคนนี้สวยมาก!
แต่ความรู้สึกที่เพิ่งก่อตัวก็สลายหายไปอย่างรวดเร็ว
เลิ่งเชาถิงยื่นมือออกไปหากู้หนิง “บุคคลใดที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ทหารหรือตำรวจ ไม่ได้รับอนุญาตให้พกปืนได้ หากถูกพบเข้าจะถูกจับฐานทำผิดกฎหมาย”
ทุกคนต่างพากันตกใจ
อะไรนะ? เด็กคนนี้มีปืน?