Your Wishlist

มู่หลันฮวา (หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้นางเสียใจ)

Author: ชาเขียวuมสด

ลูกไก่ ที่กำลังเดินข้ามถนนอยู่ดีๆก็โดนรถชนจนได้ไปเกิดใหม่ในร่างเด็กน้อย อายุสิบขวบปีแถมยังมีครอบครัวที่น่ารักอีก ใครจะไปคิดว่าจะได้ย้อนยุค

จำนวนตอน : ตอนที่ 1

หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้นางเสียใจ

  • 28/04/2564

โครมมมมมม!

เพียงพริบตาเดียวร่างของทั้งเจ็ดคนได้กระเด็นลอยออกไปทะลุกำแพงห้องยกเว้นเพียงแค่อาจิวที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของบุคคลปริศนา ฝุ่นควันคละคลุ้งไปทั่วบริเวณอาจิวจึงใช้กระบี่ตะวัดไปยังเบื้องหน้า ไม่นานฝุ่นควันก็จางหายไปมีเพียงหนึ่งบุรุษยืนอยู่ตรงหน้า

แค่ก แค่ก แค่ก

“ใครกันที่กล้าเอามือสกปรกมาแตะฮูหยินของข้า” สิ้นเสียงบรรยากาศในห้องก็พลันลดฮวบลงอย่างน่าใจหาย แรงกดดันก็เริ่มหนักขึ้น อาฉีรีบเดินเข้ามาขวางและบังคุณหนูไว้เอ่ยขึ้นอย่างเดือดดาล

"ใครบอกว่านางเป็นฮูหยินเจ้ากัน" ตามด้วยอาเฟย อาฟง อาเฉิน อาไห่ อาหลงและอาลู่

"นั่นสิเจ้ากล้าดียังไงมาบอกว่านางเป็นฮูหยินของเจ้า"

"ใช่ อีกอย่างนางก็ยังไม่ได้ออกเรือน"

"เจ้าเพ้อฝันอยู่หรือไง" 

"ข้าว่าต้องเป็นคนสติไม่ดีแน่ๆเลย" ก่อนจะหันไปกระซิบกระซาบกับคนอื่นๆ "ข้าว่าพาคุณหนูหนีไปก่อนดีกว่า"

"ข้าก็เห็นด้วยกับเจ้านะ" อาหลงพูดจบก็หันไปหาอาลู่

"อาลู่เจ้าพาคุณหนูหนีไปซะ ส่วนทางนี้พวกข้าจะถ่วงเวลาไว้เอง" ไม่ทันที่ทุกคนจะได้ขยับกายก็โดนอาจิวขัดขึ้นมาเสียก่อน

"พวกเจ้าหยุดเลยนะ"

"เจ้าอย่ามาห้ามพวกข้านะอาจิว เจ้าไม่เห็นหรือไงว่าบุรุษผู้นี้กล่าวอ้างว่าคุณหนูเป็นฮูหยินของตนเอง"

"อาเฟยข้าว่าลงมือเถอะ" มู่หลันฮวาก็คิดบางอย่างได้ในเมื่อไม่เจอกันมาหลายปีอยากลองดูว่าฝีมือของพวกเขาจะพัฒนาไปถึงขั้นไหนแล้ว

"อาเฟย อาหลงลงมือ" เมื่อได้ยินสิ่งที่คุณหนูพูดอาจิวรีบหันหน้ากลับมาอย่างไว 'นี่คุณหนูนางคิดอะไรอยู่กันแน่ถึงได้ทำสายตาเจ้าเล่ห์แบบนั้นออกมา' อาจิวจึงมองออกไปด้านหน้าด้วยแววตาและใบหน้าที่เรียบนิ่ง ปล่อยให้อาเฟยและอาหลงต่อสู้กับท่านประมุข ก่อนจะหันกลับมาแล้วยื่นบางอย่างให้กับคุณหนู

"อะไรอย่างนั้นหรือ" แม้ว่าปากจะถามไปเรื่อยเปื่อย สายตาจับจ้องไปยังการต่อสู้เบื้องหน้า แต่มือกลับยื่นไปหยิบสิ่งของนั้นมาจากอาจิว ก่อนจะคลี่กระดาษออกมาอ่าน

'ถึงหลันเอ๋อร์ลูกรัก ตอนนี้พ่อกับแม่ของเจ้าสบายดี เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงดูแลตัวเองให้ดี พ่อเจ้าได้ส่งพวกอาฉีไปคอยช่วยคุ้มครองเจ้าแล้ว จงระวังหลี่กวงหยาให้ดีคนผู้นี้เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมหากมีโอกาสก็จงสังหารให้สิ้นอย่าได้ปล่อยให้มีชีวิตรอด แม่และพ่อเจ้าคาดการณ์ไว้ว่าอีกไม่นานหลี่กวงหยาจะต้องบุกไปที่นั่นอย่างแน่นอน รักลูกๆเสมอ'

"จากนายท่านและฮูหยินเจ้าค่ะ" หลังจากที่ได้อ่านเนื้อหาข้างในเรียบร้อยแล้วนางก็ได้ทำลายจดหมายทิ้งทันที 

"นี่ท่านพ่อกับท่านแม่ตัดสินใจที่จะออกไปท่องยุทธภพกันแล้วหรือ"

"ใช่เจ้าค่ะ"

"แล้วเจ้าหละอาจิวไม่ไปกับพวกท่านพ่อท่านแม่รึ?"

"ข้ารอหลังจากที่คุณหนูแต่งงานออกเรือนไปก่อนเจ้าค่ะถึงจะกลับไปอยู่ดูแลฮูหยินอีกครั้ง"

"เอ๊ะ! ข้าบอกพวกเจ้าหรือว่าจะแต่ง"

"โถ่ ใครๆเขาก็รู้ว่าคุณหนูนั้นมีใจให้ท่านประมุขไยถึงพูดมาเช่นนั้นกันหละเจ้าคะ" ด้านหานซือเยว่ที่จัดการอาเฟยและอาหลงเสร็จก็รีบปรี่เข้ามาหานางอันเป็นที่รักก็ทันได้ยินประโยคที่พูดออกมา แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่านางแค่พูดเล่นแต่ในใจเขานั้นกลับไม่ชอบใจเอาเสียเลย

"นั่นสิหลันหลัน หรือเจ้าพึงใจผู้ใดอยู่บอกมาข้าจะไปเยี่ยมเยือนคนผู้นั้นให้ไว" เมื่อได้ยินเสียงแว่วมาจากข้างหลังก็ได้หันกลับไปมองปรากฎว่าคนของนางได้ลงไปนอนกองเพียงไม่กี่กระบวนท่า ก่อนเงยหน้าขึ้นมาสบตากับร่างหนาตรงหน้า 'หมดกันอาเฟย อาหลง นี่คนของนางอ่อนเองหรือคนตรงหน้าแข็งแกร่งเกินไป' ขอป่วนสักนิดก็แล้วกันถือว่าเป็นการเอาคืนให้ทั้งสองคน 

"นั่นสิข้าพึงใจผู้ใดอยู่กันนะ หรือว่า..."

"มันเป็นผู้ใดข้าจะไปฆ่ามันซะ" หานซือเยว่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราด 

"ท่านแน่ใจหรือว่าจะไปฆ่าบุรุษคนนั้นจริงๆไม่ว่าคนผู้นั้นเป็นใคร"

"ใช่"

"ท่านจะไม่เสียใจภายหลัง"

"ใช่" 

"ดี งั้นก็ไปฆ่าเขาซะแล้วข้าจะยอมแต่งให้ท่าน" นางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกชวนให้คนที่ได้ยินนั้นรู้สึกเสียวสันหลังวาบ แม้แต่หานซือเยว่เองเมื่อได้ยินคำพูดนางก็รู้สึกร้อนๆหนาวๆร่างกายสั่นสะท้านชาไปทั้งตัว เมื่อทุกคนสังเกตเห็นสีหน้าท่าทางของหานซือเยว่ก็พอเดาได้ทันที 'โดนคุณหนูของพวกเขาเอาคืนแล้ว หึหึหึ' 

"อะ...เอ่อ ช่างเรื่องนั้นเถอะข้าจะไม่ถือสาเอาความก็แล้วกัน" น้ำเสียงที่แหบพร่าเอ่ยออกมาอย่างลำบาก เมื่อเขาเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าได้ตกหลุมพรางนางเข้าให้ 

"เสิ่นเหลียง พาพวกเขาไปกินข้าวและพักผ่อน" นางคิดได้ว่าถึงเวลาสมควรที่จะให้พวกเขาได้พักผ่อนอย่างเต็มที่หลังจากที่เดินทางมาหลายวัน ร่างกายคงจะล้าและคงจะอ่อนเพลียไม่มากก็น้อย

"ขอรับ"

 

 

สองสัปดาห์ผ่านไป

ก่อนหน้าจะจัดงานหมั้นหานซือเยว่และมู่หลันฮวาก็ได้รับจดหมายลับจากมู่เหยียนชิง ให้เขาเริ่มแผนการประกาศเรื่องการจัดงานหมั้นออกไปเพื่อล่อให้ศัตรูออกมายังที่โล่งแจ้ง ซึ่งภายในงานนั้นเต็มไปด้วยคนของพวกเขาคอยสอดส่องสังเกตจับตามองจึงให้อาซื่อไปแจ้งข่าวแก่มู่เฟยชิง ด้านมู่เฟยชิงหลังจากที่รับรู้เรื่องทุกอย่างจากคนของหานซือเยว่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลและเป็นห่วง 

"หานซือเยว่อยู่ที่ใด"

"ห้องหนังสือขอรับคุณชายมู่"

"พาข้าไป" เพียงหนึ่งเค่อเขาก็ได้มาอยู่ตรงห้องหนังสือแล้ว ก่อนจะเดินเข้าไปหาหานซือเยว่ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เขาจึงเงยหน้าขึ้นมาเมื่อรู้ว่าผู้ใดเข้ามาหา

"มีอะไร"

"เจ้าตามข้ามาสักครู่ ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า" ไม่นานทั้งคู่ก็ได้เดินออกมาหยุดอยู่ตรงสวนด้านหลัง 

"คุณชายมู่ จู่ๆก็เรียกข้าออกมาท่านมีเรื่องอันใดหรือ" 

"หลันเอ๋อร์ในตอนเด็กนั้น มักจะป่วยอยู่บ่อยๆแต่ก็ไม่เคยร้องไห้งอแงออกมา ทั้งยังเป็นเด็กที่ยิ้มง่ายชอบซุกซนไปทั่ว แม้ครอบครัวเราจะยากจนอดมื้อกินมื้อนางก็ไม่เคยทุกข์ใจในทุกๆวันพวกเรามักจะเข้าป่าไปหาสมุนไฟเพื่อเก็บออกมาขายพอให้ได้เงินมาซื้อข้าว แต่อยู่มาวันหนึ่งนางได้แอบหนีท่านแม่ออกไปเล่นซนริมแม่น้ำเพียงลำพังทำให้นางตกลงไปหัวฟาดโขดหินทำให้นางหยุดหายใจไปครู่หนึ่ง แต่สวรรค์ก็ยังเมตตานางอยู่บ้างเพียงไม่กี่วันก็อาการดีขึ้น แม้ว่าหลังจากฟื้นขึ้นมาแล้วลักษณะท่าทางจะเปลี่ยนไปบ้าง แต่หลังจากนั้นไม่กี่เดือนนางและท่านพ่อที่กำลังเดินทางกลับจากตลาดก็โดนพวกมือสังหารตามฆ่าจนสะบักสะบอม ท่านพ่อบาดเจ็บสาหัสส่วนหลันเอ๋อร์ก็แทบไร้ลมหายใจ ท่านพ่อได้เล่าให้ฟังว่าได้มีบุรุษคนหนึ่งผ่านมาและได้ช่วยหลันเอ๋อร์ไว้จึงทำให้นางมีชีวิตรอดกลับมาอีกครั้ง แม้จะสงสัยว่าเป็นผู้ใดที่ยื่นมือเข้ามาช่วยก็ไม่อาจหาคำตอบได้ พวกเราจึงได้แต่ขอบคุณบุรุษผู้นั้นอยู่ในใจ" หลังจากได้ฟังสิ่งที่มู่เฟยชิงเล่าออกมาเขาก็รู้ได้ทันทีว่าครั้งก่อนโน้นได้ยื่นมือเข้าไปช่วยสองพ่อลูกอย่างไม่ได้ตั้งใจจากการลอบสังหารในครานั้น 'ที่แท้ก็เป็นนางกับท่านลุงมู่นี่เอง'

"นางเติบโตได้มาถึงเพียงนี้ ทั้งยังผ่านความยากลำบากมามากมาย"

"นางเป็นน้องสาวเพียงคนเดียว ข้าเป็นคนเลี้ยงให้นางเติบโต ชั่วชีวิตนี้ของข้ามีเพียงไม่กี่คนที่ข้าจะยอมสละชีวิตแทนได้และหลันเอ๋อร์ก็เป็นหนึ่งในนั้น ข้าต้องการให้นางได้มีชีวิตที่ดี หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้นางต้องเสียใจ"

"ข้าให้คำสัตย์สาบาน ว่าหานซือเยว่ผู้นี้จะไม่มีวันทรยศและทำให้นางเจ็บช้ำน้ำใจเป็นแน่" มู่เฟยชิงเมื่อเห็นแววตาที่จริงจังไม่วูบไหวก็รู้สึกวางใจ อย่างน้อยหลันเอ๋อร์ก็จะได้มีความสุขเสียที 

 

 

งานหมั้น

มีผู้คนมากมายต่างหลั่งไหลกันเข้ามาแสดงความยินดีแก่ท่านประมุขและมู่หลันฮวา ทุกคนต่างดื่มด่ำไปกับรสชาติอาหารที่แปลกใหม่และสุรารสเลิศ โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าได้มีบุรุษบางคนแฝงตัวเข้ามา จากนั้นก็เริ่มมีคนทยอยเข้ามาร่วมแสดงความยินดี

"ข้า ต้วนเลี่ยวขอแสดงความยินดีกับท่านประมุข ขอคารวะหนึ่งจอก"

"ข้า หลิ่งเหม่ายินดีกับท่านด้วย ขอคารวะหนึ่งจอก"

"ข้า ถังโหยว ขอคารวะให้แก่ท่านหนึ่งจอก" คนแล้วคนเล่าที่ต่างเข้ามาร่วมยินดี 

"หลันหลันเจ้าคิดว่าภายในงานมีอะไรแปลกๆไปหรือไม่" ก่อนจะขยับกายเข้าไปใกล้นางเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต

"อืม ข้าว่าหลี่กวงหยาคงแฝงตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งภายในงาน" ไม่นานหานซือเยว่ก็ได้ยินเสียงบางอย่างพุ่งเข้ามายังร่างบางตรงหน้า

ฟิ้ววว~ 

เมื่อเห็นเช่นนั้นก็ใช้ถ้วยชาที่อยู่ในมือซัดออกไปสกัดกระบี่ที่พุ่งเข้ามา 

เคล้งงง~

17/4/64
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า