“คุณคิดว่าจะหนีจากฉันไปง่ายๆอย่างนั้นเหรอ? ชิ ชิ คุณฮัน คุณประเมินฉันต่ำไปจริงๆ” “ฉันจะตามล่าคุณจนเจอ แม้ว่าคุณจะพยายามซ่อนตัวจากฉันสุดล่าฟ้าเขียวแค่ไหนก็ตาม” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะเยาะอย่างชั่วร้าย
“คุณคิดว่าจะหนีจากฉันไปง่ายๆอย่างนั้นเหรอ? ชิ ชิ คุณฮัน คุณประเมินฉันต่ำไปจริงๆ” “ฉันจะตามล่าคุณจนเจอ แม้ว่าคุณจะพยายามซ่อนตัวจากฉันสุดล่าฟ้าเขียวแค่ไหนก็ตาม” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะเยาะอย่างชั่วร้าย
กู้จางขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดของกู้หน่วน ชิงเหรินบอกเขาว่าเธอกับชวี่หน่วนไปช้อปปิ้งด้วยกัน แต่เธอต้องกลับไปก่อนเพราะมีงานด่วน เธอเลยบอกให้ชวี่หน่วนขึ้นแท็กซี่กลับบ้านเอง
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้อยู่ตรงนั้นตอนที่ชวี่หน่วนประสบอุบัติเหตุ เนื่องจากในวันนั้นชวี่หหวนสวมส้นสูง เธอจึงรู้สึกไม่สบายตัวและมีปัญหาตอนเดิน
เมื่อเขารู้ว่าชวี่หน่วนประสบอุบัติเหตุ เขาสันนิษฐานจากคำพูดของชิงเหรินว่าเธออาจเกิดอุบัติเหตุเพราะความประมาทของเธอ
เขาเลยงงเล็กน้อยเมื่อชวี่หน่วนบอกว่าไม่ใช่ความผิดตัวเอง
“แล้วนี่ความผิดใคร? ชวี่หน่วน กระโดดตัดหน้ารถโดยประมาทแล้วมันคืออะไร? ถ้าใส่ส้นสูงไม่ได้ก็อย่าใส่ อย่างน้อยก็อย่าสร้างปัญหาให้พวกเรา” เขาตะโกนขณะที่เขาทนไม่ได้ที่เธอกำลังโต้เถียงกับเขาต่อหน้าคุณฮัน
ชวี่หน่วนพูดไม่ออกเมื่อเห็นการกระทำของเขา ส้นสูง? จริงๆเหรอ? พวกเขาซื้อเรื่องไร้สาระนี้?
“ฮ่าๆ คุณกู้ คุณไร้เดียงสามาก ฉันไม่เคยคิดเลยว่าคุณจะหลอกได้ง่ายขนาดนี้ ใครบอกว่าฉันประสบอุบัติเหตุเพราะความประมาทของฉัน แล้วส้นรองเท้าเกี่ยวอะไรด้วย?”
กู้ชินเหรินยืนอยู่ข้างๆ เพราะรู้สึกประหม่าเมื่อได้ยินคำพูดของชวี่หน่วน
"ชวี่หน่วน ทำไมเธอเป็นคนแบบนี้? ฉันรู้ว่าเธอเจ็บเพราะฉัน ฉันรู้ว่าเธอไม่ชอบการที่ฉันอยู่ในบ้านนี้ ฉันสัญญา ฉันจะออกจากบ้านเมื่อเธอหายดีแล้ว แต่ได้โปรดอย่าโกรธพ่อเพราะฉันเลย” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
หลินหรันปวดใจเมื่อเห็นลูกสาวที่เลี้ยงมาหลายปี พูดถึงการจากไป
เธอเอื้อมมือไปวางบนไหล่ของลูกสาว “ชิงเหริน พูดแบบนี้ได้ยังไง? แม่ไม่ให้ไปไหน หนูคือลูกสาวเรา หนูคือกู้ชินเหริน หนูจะไม่ไปไหนทั้งนั้น อย่าแม้แต่จะคิดเกี่ยวกับมัน”
“ส่วนเธอ ชวี่หน่วน แม้ว่าเธอจะเป็นลูกสาวแท้ๆ ของเรา เธอแค่เข้าใจหน่อยไม่ได้เหรอ? เราเลี้ยงดูชินเหริน มาหลายปีในฐานะลูกสาวของเรา เธอจะโทษชินเหรินที่เข้าแทนที่เธอได้ยังไง?”
“เธอใช้ชีวิตอยู่อย่างชวี่หน่วนมาโดยตลอด แล้วทำไมเธอถึงอยากแย่งชิงทุกสิ่งจากชินหรันไปด้วย? มันจะไม่ทำร้ายเธอถ้าหากเธออยู่อย่างสงบสุขกับชินเหรินใต้หลังคาเดียวกันเหมือนพี่น้องกัน เรื่องง่ายๆแค่นี้ไม่เข้าใจรึไง?” หลินหรันไม่พอใจที่เธอต้องเลือกระหว่างลูกสาวแท้ๆ กับคนที่เธอเลี้ยงดูมา
อย่างไรก็ตาม หากเธอต้องเลือก อย่างไม่ต้องสงสัยเธอจะเลือกกู้ชินหรันเพราะเธอปฏิเสธไม่ได้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาเธอได้ปรนเปรอเอาอกเอาใจชินเหรินด้วยความรักและความห่วงใย เธอจะเชื่อได้อย่างไรว่านั่นไม่ใช่ลูกสาวเพียงเพราะผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่ง? แม้ว่าเธอจะไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ความรักของเธอจะเปลี่ยนไปในทันทีทันใดได้ไหม?
ชวี่หน่วนยิ้มเมื่อเห็นวิธีที่เธอสร้างเรื่องประโลมโลก
'กู้ชินเหรินคนนี้มีทักษะในตัวเธอ'
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อฟื้นฟูจิตใจที่เหนื่อยล้า และพูดอย่างเย็นชาขณะมองดูกู้จาง “คุณกู้ ฉันไม่รู้ว่าลูกสาวสุดที่รักของคุณบอกอะไรคุณบ้าง แต่ให้ฉันบอกความจริงกับคุณเถอะนะ ฉันไม่ได้ประมาทและเล่นซนขณะเดิน"
"มันเป็นลูกสาวสุดที่รักของคุณที่เป็นคนผลักฉันลงไปในถนน ไม่ใช่แค่นั้น แทนที่จะเรียกรถพยาบาล แต่เธอกลับวิ่งหนีจากที่นั่นเหมือนไม่รู้จักฉันด้วยซ้ำ"
"มันไม่ใช่ฉันที่เกลียดเธอ แต่เธอต่างหากที่เปรียบเทียบตัวเองกับฉันและดูถูกชวี่หน....ฉัน" เธอแก้ไขชื่อตัวเองจากการพูดว่าชวี่หน่วน
เธอแปลกใจเล็กน้อยที่รู้ว่าเป็นชินเหรินที่ผลักเธอไปใส่หน้ารถ ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณความทรงจำของชวี่หน่วน
กู้จางตะลึงงันเมื่อได้ยินคำพูดของชวี่หน่วน เขาเหลือบมองหลินหรันและชินเหรินโดยไม่รู้ตัว
เขาไม่ได้คาดหวังสิ่งนี้เพราะชินเหรินเป็นเด็กสาวที่เชื่อฟังและได้รับการอบรมมาโดยตลอด เขารู้จักเธอดี
เธอเป็นเด็กสาวที่ใจดีและไร้เดียงสา เธอไม่แม้แต่จะฆ่าแมลงได้ เธอจะพยายามผลักน้องสาวของเธอลงไปที่ถนนได้อย่างไร?
หลินหรันสังเกตเห็นการจ้องมองที่น่าสงสัยของกู้จาง และมองหน้าชินเหรินทันที " กู้จาง อย่าโง่ คุณจะเชื่อเรื่องไร้สาระที่เด็กคนนี้พูดได้อย่างไร? คุณคิดว่าชินเหรินจะทำอะไรแบบนี้จริงๆ เหรอ? เธอไม่มีเหตุผลที่จะทำแบบนั้น ฉันแน่ใจว่าต้องมีเรื่องเข้าใจผิด ชินเหรินไม่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้แน่"
ชวี่หน่วนเยาะเย้ยที่หลินหรัน ความรักของแม่ที่ปกป้อง หลินหรันเป็นแม่ที่ดี แต่สำหรับกู้ชินเหรินเท่านั้น
แม้หลังจากพบว่าชวี่หน่วนเป็นลูกสาวที่แท้จริงของพวกเขา และเมื่อเธอถูกนำตัวกลับมา เธอไม่เคยพอใจกับข้อตกลงนี้
สำหรับเธอ ชินเหรินเป็นลูกสาวที่แท้จริงของเธอ เป็นที่เข้าใจได้ว่าเธอรักชินเหรินมาก อย่างไรก็ตาม หลังจากที่รู้ว่าชวี่หน่วนเป็นลูกสาวของเธอ อย่างน้อยเธอก็สามารถพยายามเข้าใจและมอบความรักที่สมควรได้รับและต้องการให้กับเธอ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอารมณ์ที่ไม่คงที่ พวกเขาทั้งหมดจึงเพิกเฉยต่อเด็กสาวที่มาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ถึงเธออาศัยอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าโดยไม่มีพ่อแม่และครอบครัว แต่เธอรู้สึกเหงาและหดหู่มากขึ้นหลังจากมาที่ครอบครัวกู้
ความตื่นเต้นของเธอลดลงเมื่อเห็นพ่อแม่ของเธอปฏิบัติต่อเธอเหมือนเป็นภาระพิเศษ ชวี่หน่วนยังคงไม่เคยเกลียดชินเหริน แต่เธอสามารถสัมผัสได้ถึงความเกลียดชังที่มาจากชินเหริน
ชวี่หน่วนส่ายหัวขณะที่ความทรงจำอันน่าเศร้าของชวี่หน่วนทำให้เธอรู้สึกหดหู่เล็กน้อย
“ถ้าทุกคนไม่เชื่อ โทรแจ้งตำรวจ”