ข่าวของหลินอีมาหาเจียนอ้ายที่ห้องสามแพร่สะพัดราวกับไฟลามทุ่ง แทบจะทุกคนในโรงเรียนรู้เรื่องนี้ ข่าวลือเริ่มแพร่กระจายไปทั่ว แต่ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาสองคนพูดคุยอะไรกัน
ตอนเที่ยง ที่โรงอาหาร
โรงอาหารของเอ้อจงตั้งอยู่ทางด้านขวาของโรงเรียน เป็นอาคารสองชั้นครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ และอาหารก็มีหลากหลายประเภท นอกจากข้าว ผัดผัก หมั่นโถว และบะหมี่แล้ว ยังมีอาหารพื้นเมืองจานพิเศษต่างๆ เช่น รั่วเจียโม่ ซุปหม่าล่าและอื่นๆ แถมรสชาติก็อร่อยมาก
หลินอียืนอยู่ทางเข้าโรงอาหารและมองหาเจียนอ้ายท่ามกลางฝูงชนจากระยะไกล เหมือนเดิม เธอสวมชุดนักเรียนที่รีดอย่างปราณีตและมัดผมหางม้าแบบเรียบๆ
ในสายตาของหลินอี เจียนอ้ายเป็นอะไรที่แตกต่างจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง เธอไม่ได้เดินก้มหน้าและจมอยู่ในฝูงชนเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป ตลอดทั้งร่างของเธอให้อารมณ์ที่แตกต่างจากคนอื่น ผิวของเธอเปล่งประกายเจิดจรัสและใบหน้าที่ไร้อารมณ์ ถึงอย่างนั้นคนอื่นก็ยังสามารถสังเกตเห็นเธอได้อย่างรวดเร็ว
เจียนอ้ายมองเห็นหลินอีเช่นกัน เธอเดินมาหาเขาอย่างรวดเร็ว “นายรอฉันเหรอ?”
หลินอีพยักหน้า “เข้าไปกันเถอะ”
ทั้งสองคนเดินเข้าไปในโรงอาหารพร้อมกันและดึงดูดสายตาอันประหลาดใจของทุกคน ข่าวลือเมื่อเช้ากลายเป็นเรื่องซุบซิบกันแล้ว ทุกคนเริ่มจับกลุ่มพูดคุยกัน
“บ้าจริง! พวกเขาอยู่ด้วยกันจริงๆเหรอเนี่ย?”
“เกิดอะไรขึ้น? เจียนอ้าย? หลินอีชอบเจียนอ้าย?”
“เธอดูอย่างกับคนโง่ คนโง่ แต่ทว่าโชคดีชะมัด”
“เชอะ...รอดูกันเถอะ ไม่นานหรอก”
“ถูกต้อง มีนักเรียนหญิงไม่น้อยกว่า 80 คนในโรงเรียนที่ชอบหลินอี ฉันคิดว่าต่อจากนี้เจียนอ้ายน่าจะอยู่ลำบากแล้ว”
ในโรงเรียนมัธยม มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่เด็กนักเรียนจะตกหลุมรักกัน เพียงแต่สถานะของตัวเอกสองคนนี้แตกต่างกันมากเกินไป
หลินอีเป็นแวนการ์ดของทีมบาสเก็ตบอลโรงเรียน เขาเป็นนักเรียนยอดเยี่ยม ครอบครัวของเขาเป็นเจ้าของแบรนด์แฟชั่นที่มีชื่อเสียงในประเทศ มูลค่าตลาดกว่าร้อยล้านหยวน เขาเป็นหนึ่งในคนที่มีชื่อเสียงที่สุดในโรงเรียน
ส่วนเจียนอ้ายเป็นซินเดอเรลล่าจากสลัม ความสนใจของเธอมีแต่เรื่องเรียน เธอเป็นแบบอย่างให้กับเด็กจากครอบครัวยากจนที่ให้ความสำคัญกับการเรียน เธอไม่ค่อยปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นมากนัก และไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมกับเพื่อนร่วมชั้น เธอทำตัวเหมือนอยู่คนเดียวและไม่ยุ่งกับใคร คนอื่นๆ จึงไม่ค่อยมีใครใส่ใจเธอ
คนสองคนที่เข้ากันไม่ได้เลย มาคบกันได้ยังไง? งานนี้ใครๆ ก็รับไม่ได้!
เจียนอ้ายและหลินอีได้ยินเสียงถกเถียงกันของทุกคน หลินอีพูดกระซิบกับเธอว่า “เธอกลัวพวกนั้นจะสร้างปัญหาให้ไหม?”
“เมื่อเทียบกับปัญหาที่จะได้เจอในอนาคต ฉันคิดว่าอาหารกลางวันฟรีหนึ่งเดือนน่าสนใจมากกว่า” เจียนอ้ายตอบกลับด้วยเสียงกระซิบเช่นกัน
ยิ่งคิดหลินอีก็ยิ่งพบว่ามันแปลก ถึงเขาจะไม่ค่อยได้พูดคุยกับเจียนอ้าย และไม่รู้จักเธอมากนัก เขารู้สึกว่าเจียนอ้ายแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ราวกับว่าไม่มีใครอยู่ในสายตาของเธอเลย และมีกำแพงขวางกั้นไม่ให้คนแปลกหน้าเข้าหา ทั้งที่ยืนคุยกันอยู่ตอนนี้ หลินอียังรู้สึกถึงกำแพงที่มองไม่เห็นระหว่างเขากับเจียนอ้าย ซึ่งเขาไม่สามารถปีนข้ามไปได้
นี่ยังเป็นเจียนอ้าย คนที่ได้รับจดหมายรัก และวิ่งมาหาเขาด้วยใบหน้าแดงก่ำและพูดว่า “หลินอี ฉันก็ชอบนายเหมือนกัน” แน่หรือ...
หลินอีมองไปที่เจียนอ้ายและพูดว่า “เธออยากกินอะไรก็สั่งเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ”
ทุกวัน