ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน
ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน
“พวกแกมีของอะไรบ้างส่งมาให้หมด! เดี๋ยวนี้! อย่าลีลา!!”
กดมีดคัตเตอร์จมคอจนเลือดซิบ คอเหี่ยวๆ ของลุงสั่นสะบั้น ไม่มีทางเลยที่คนแก่แถมยังเป็นตัวประกอบอย่างแกจะสู้แรงคนหนุ่มได้!
.
และก่อนที่พวกเจนิสจะกระดุกกระดิกหรือทำอะไรลงไป ชายในเสื้อฮูดอีกคนที่ถือปืนอยู่ในมือ ก็ได้ย้ายปลายกระบอกมาจ่อเข้าที่ขมับของลุงเพื่อเพิ่มแรงกดดันให้ถาโถมขึ้นไปอีก เขาตะคอกใส่หน้าไปอีกคำรบ!
.
“แล้วพวกเอ็งมีกันกี่คน?! ยังมีคนอื่นอีกรึเปล่า?”
“ห๊าาาาา!!!!”
“บอกมาสิโว๊ยยยย!!!”
.
ฝอยน้ำลายฟุ้งกระจาย ทว่าสิ่งที่สกปรกกว่านั้นกลับเป็นการเหนี่ยวขึ้นลำกระสุนเพื่อเตรียมยิง เหลือเพียงออกแรงเหนี่ยวไก หัวของลุงก็คงจะเละเป็นลูกแตงโมไม่ต่างจากป้า!
.
เจนิสกับเพื่อนเลยเลือกที่จะเงียบ เธอพยายามเบี่ยงสายตามองด้านข้าง ก่อนจะพบว่าแพรวเองก็ไม่ได้อยู่ตรงตู้กดก๊าซหยอดเหรียญแล้ว! หัวหน้าแคลนหายไปอย่างไร้ร่องรอย! แถมยังไม่มีแม้แต่เสียงฝีเท้าสักแอะ! พอหันหน้ากลับมามองตรงตามเดิม พลางเพ่งสายตาให้ยืดยาวออกไปจนทะลุผ่านร่างของชายทั้งสองจนลึกสุดทางเดินด้านในได้ เธอก็ได้พบกับบางสิ่งบางอย่างที่เด็กไม่ควรจะเห็นเข้า!!!
.
คุณพระช่วย! มันคือศพที่แห้งทับถมกันนับสิบๆ ศพ บางส่วนเป็นกระดูก บางส่วนก็แห้งเกรอะกรังลอกเป็นแผ่นหนัง ศพถูกวางซุกไว้ตรงมุมห้อง บ่งบอกว่าที่นี่เป็นกับดัก! มินิมาร์ทแห่งนี้ถูกจัดฉากไว้ตั้งแต่แรกโดยกลุ่มคนอีกแคลนหนึ่ง! พวกเขาไม่ใช่คนดีเหมือนแพรว แถมยังเป็นพวกชั่วช้าต่ำทรามที่ดักฆ่าทุกคนที่ผ่านไปผ่านมา เพียงเพื่อให้ตัวเองได้มีชีวิตรอดไปวันๆ …
.
“ว่าไงล่ะอีหนู!!! ไม่ได้ยินที่ฉันถามรึไงฟะ! หรืออยากให้ไอ้แก่นี่ตาย!!!”
“พวกแกมีกันกี่คน???!!!”
.
สะดุ้งสั่นไปถึงมวลอะตอม เจนิสกับเพื่อนตัวชาพูดไม่เป็นประโยค พวกหล่อนหวาดกลัวมากเพราะตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยใกล้ชิดกับความตายมากขนาดนี้มาก่อน แต่ครานั้นก็ยังกัดฟันสู้! พลันพูดออกไปลอยๆ แบบส่งเดชออกไป!
.
“มีแค่นี้ล่ะค่ะ…แค่ 5 คนเท่าที่เห็น… ได้โปรดอย่าทำอะไรพวกเราเลย… เอาของเราไปหมดเลยก็ได้ เราจะรีบไปแล้วจะไม่บอกใครว่ามีคนอยู่ในนี้… ได้โปรดเถอะนะคะ…หนูขอร้อง..ง..ง..”
เด็กสาวก้มหัวลงเลี่ยงที่จะสบตา พูดไปทั้งน้ำตาครางกระซิกๆ คิดเอาสิว่าภายในกลุ่ม 3 คนที่ใส่หน้ากากครอบแก้วอยู่ตอนนี้ จากกระจกจอสีฟ้ากับตัวเลขออกซิเจนที่สูงถึง 85% ความเครียดกลับทำให้หน้ากากของพวกเธอแดงเถือก! และแสดงค่าก๊าซภายในว่าเหลืออยู่แค่ 20% เท่านั้น!
.
“หึ..!”
“งั้นก็ต้องมาเช็คกันหน่อยนะว่าเธอโกหกเราไหม?”
.
ชั่วเสี้ยวอึดใจหลังพล่ามเสร็จ กระสุน 9 มม. จากปากกระบอกปืนสมิธแอนด์เวสสันก็พ่าวร้อนขึ้นวามวาบ!
.
“ปังงงง!!!!!”
.
มันเร็วจนไม่ทันได้ตั้งตัวกระสุนพุ่งปั่นขมับจนหัวของลุงแหว่งไปครึ่งซีก! มิหนำซ้ำมันยังไม่ยอมปล่อยให้ร่างแกกองลงที่พื้น ไอ้ชั่วหัวหมวกฮูดยังได้ทำการเหนี่ยวรั้งร่างของลุงเอาไว้ พลางเหวี่ยงสะบัดให้ร่างกายแกลอยปลิวไปกองอยู่ข้างกันกับป้าตรงหน้าตู้แช่น้ำ!
.
ทำเอาพวกเจนิสถึงกับแผดเสียงกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจ แต่พวกมันก็ไม่สน! ต่างคนต่างเดินอาดๆ เข้ามาหากลุ่มเด็กสาว พร้อมกับยกปลายกระบอกปืนขึ้นเตรียมจะยิงเรียงตัว เพื่อจะปล้นเอาข้าวของเสบียงรวมไปถึงหน้ากากครอบแก้ว อุปกรณ์สุดสำคัญที่ราคาสูงลิ่วแล้วในปีปัจจุบัน
.
“อย่ายิงพี่…ได้โปรดเถอะ…!”
.
แต่เดชะบุญ! เมื่อ!
.
“เฮ๊ย! ระวัง! หลบเร็วววว!!”
.
“แกร๊งๆ!!!! , ฟิ้ววว~~~~!”
.
ชายหนึ่งคนเบี่ยงตัวหลบออกซ้าย ส่วนอีกคนย้ายออกขวา เพราะวัตถุตรงกลางที่พุ่งแหวกอากาศเข้ามาก็คือกระป๋องก๊าซอันหนึ่งที่ถูกปาเข้ามาโดยแพรวหัวหน้าแคลน
.
เธออาศัยจังหวะที่พวกมันตกใจ ควัก Glock 18c โครงโพลิเมอร์ออกมา พลันลั่นกระสุนเพียงหนึ่งนัดเข้าใส่กลางกระป๋องแบบตรงเผง! ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ…
.
“ตูมมมมมม!!!!!”
.
ปฏิกิริยาเคมีทำงานราวกับเล่นมายากล อานุภาพทำลายล้างไม่สูงมากแต่ก็มากพอที่จะทำให้ใบหน้าและฮูดที่คลุมอยู่มอดไหม้ลุกติดไฟ! พวกมันกรีดร้องด้วยความทุกทรมาน! ระหว่างนั้นแพรวก็ได้ปรับโหมดปืนเป็น “Burst Fire” เพื่อให้สามารถยิงรัวได้คราวละ 3 นัดต่อเนื่อง เปลี่ยนจากปืน 9 มม. ธรรมดาให้มีอานุภาพไม่ต่างจากปืนกลเบาดีๆ กระบอกหนึ่ง
.
“มาเซ้….ออกมาเลย! มีพวกแกอีกกี่คนซ่อนอยู่ตรงไหนกันบ้าง? ลองแหกปากขนาดนี้มันต้องออกมาดูเพื่อนมันบ้างล่ะ…”
แพรวคิดในใจ เธอชันกายพิงอยู่หลังกำแพงตรงชั้นวางของด้านหลัง พลางทอดสายตาดูพวกเด็กๆ อยู่เป็นระยะ จากตรงนี้เธอยังเอาอยู่! กระสุนก็มากพอที่จะคุ้มครองทุกคนได้! ก่อนที่หลังจากนั้นมาจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก.. ไม่มีสมาชิกใหม่ออกมาสมทบ.. แล้วพวกมันทั้งสองก็ค่อยๆ สงบลงล้มตรึมไปกับพื้น ในสภาพของศพที่ทั้งไหม้แล้วก็เกรียมเละ!
.
เช็คทุกอย่างจนมั่นใจ สาวเจ้าจึงย่างเท้าก้าวออกมาจากจุดซุ่ม ประตูหลังร้านถูกงัดเข้าไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ แต่ที่รู้คือแพรวปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับ สมาชิกของแคลนระยำนี้อีกสองศพที่เธอหนีบไว้ใต้วงแขน! หนึ่งในนั้นบนหัวของมันยังมีไม้หน้าสามฝังตะปูของเธอติดคาอยู่! แล้วเธอก็จัดแจงเหวี่ยงศพเหล่านั้นลงมากองต่อหน้าเด็กๆ
.
“ฟุบบบ!!!!”
.
“ลุงกับป้าไม่รอดแล้วล่ะ… ช่วยเช็คศพพวกนี้หน่อยสิ! มีของอะไรพอใช้ได้เก็บออกมาให้หมด! "
“ศพไฟไหม้นี่ก็ด้วย…”
"ส่วนคนที่เหลือเข้าไปด้านใน ฉันเคลียร์ทุกอย่างแล้ว เก็บกระเป๋าเป้ลุงกับป้ามาด้วย เรายังต้องใช้ของๆ พวกแกอยู่…”
.
กระพริบตาปริบๆ เจนิสยังคงสั่นเทิ้ม
.
“มองอะไรมิทราบ?! ติดขัดตรงไหนหรอเจนิส?!”
.
“ปะ…เปล่าค่ะพี่แพรว…เราจะทำตามเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ!!”
.
และขณะที่พวกเด็กๆ กำลังกุลีกุจอทำตามคำสั่งอยู่นั้น แพรวก็ได้พูดสำทับย้ำจุดยืนขึ้นมาอีกครั้ง! เธอป่าวประกาศต่อหน้าทุกคนว่าเราจะไม่ทำแบบพวกนี้เป็นอันขาด! เราจะหนีออกจากเมืองหลวงเพื่อออกไปมีอนาคตที่ดียิ่งกว่า ไม่ใช่อยู่อย่างโจรมุมตึกดักปล้นชิงฆ่าแบบไร้จุดหมายเยี่ยงนี้! ถึงสุดท้ายแล้วจะต้องมีผู้เสียสละบ้าง… แต่ก็ให้ถือเสียว่านั่นเป็นเรื่องปกติในการต่อสู้… เลยอยากจะให้ทุกคนปรับทัศนคติให้ตรงกัน ก่อนจะเดินทางด้วยกันต่อไป
.
เล่นใหญ่ไฟกระพริบมาก น้ำตาเจนิสชักจะเหือดแห้ง เธอไม่เหลือความกลัวอีกต่อไป นับแต่นี้ไปคงมีแต่ความประทับใจและเอมอิ่มที่มีต่อแพรว เมื่อมองจากเบื้องหลังและนั่งยองดูจากตรงนี้ ท่วงท่าของแพรวนั้นเท่โคตรๆ!!! เธอมีทั้งความกล้าและลูกบ้าที่มากกว่าหญิงใดจะมีได้ องศามุมช้อนสะท้อนแสงแดด สะบัดผมทีสวยราวกับพรีเซ็นเตอร์ขายอุปกรณ์การแพทย์ ที่เห็นตามป้ายบิลบอร์ดข้างถนน
.
.
เพียงแต่เจนิสนั้นไม่กล้าพูดออกไปตรงๆ เธอจะกล้าบอกแพรวได้ยังไง ว่าพรีเซ็นเตอร์คนที่คิดถึงนั้นคือ
“มิวท์” ไม่ใช่แพรว!!!