สายลมที่พัดมาอย่างแผ่วเบา พัดเส้นผมของเฉียวโม่หยูละลงบนแก้มของเย่เป่ยเฉิง เธอสังเกตเห็นเขาขมวดคิ้วมุ่นจึงเอื้อมมือไปปัดออกอย่างอ่อนโยน
ชายหนุ่มบาดเจ็บหนัก ไม่มีวี่แววว่าจะตื่นขึ้นมา หัวใจเด็กสาวพลันอ่อนยวบ เธอหลุบสายตาแล้วก้มหน้าลงไปเพื่อจะจูบเขา
กล้องซูมไปที่เฉียวโม่หยูเพราะฉากนี้ต้องถ่ายใกล้ๆ
เย่เป่ยเฉิงคือนักแสดงชายที่ปฏิเสธฉากจูบมาโดยตลอดตั้งแต่เข้าวงการ
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมต้องใช้เทคนิคมุมกล้องขึ้นมาเพื่อให้ฉากนั้นสมบูรณ์แบบ แต่ก็ต้องอาศัยทักษะการแสดงด้วยเช่นกัน
เฉียวโม่หยูไม่เคยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวมาก่อน ประสบการณ์การจูบของเธอจึงเป็นศูนย์ ขณะที่่ใบหน้าเธอเข้าใกล้ชายหนุ่ม จู่ๆผู้กำกับก็ตะโกนขึ้นมาว่า
"หยุด!"
"โม่หยู ผู้ชายที่คุณชอบมากที่สุดกำลังนอนหนุนตักคุณอยู่ คุณกำลังจะจูบเขานะ ทำไมทำหน้าเหมือนกับกำลังจะตาย?"
เฉียวโม่หยูพยักหน้าและตอบกลับผู้กำกับไปว่า
"โอเคค่ะ ครั้งหน้าฉันจะตั้งใจมากกว่านี้"
“เอาล่ะ เริ่มถ่ายใหม่!” ผู้กำกับออกคำสั่ง
'ชอบผู้ชาย?' เฉียวโม่หยูไม่เคยตกหลุมรักใครมาก่อนในชีวิต โลกก่อนหน้า เธอไม่ค่อยสนใจใครด้วยซ้ำ เป็นยัยบื้อเลยก็ว่าได้ ขณะที่เพื่อนร่วมชั้นอ่านนิยายรัก เธอกลับอ่านนิยายกำลังภายใน ขณะที่เพื่อนๆพากันกรี๊ดนักบาสเกตบอล เธอกลับนั่งข้างๆอ่านการ์ตูนสืบสวนสอบสวน
พูดอีกอย่างก็คือเธอไม่รู้ว่าการชอบใครสักคนมันเป็นยังไง ผู้หญิงควรจะรู้สึกอย่างไรเมื่อเผชิญหน้ากับผู้ชายที่ชอบ
ในเมื่อเธอเป็นนักแสดง เธอต้องเรียนรู้ หญิงสาวจึงโน้มตัวลงมาที่หน้าชายหนุ่มอีกครั้ง ถ้าเธอสมมติว่าชายที่นอนหนุนตักเธออยู่ตอนนี้เป็นลั่วลั่วล่ะ จะได้ไหมนะ?
เอาล่ะ ถ้าเป็นลั่วลั่ว เธอจะนึกถึงอะไร? ใบหน้าของเด็กน้อยนั้นอ่อนโยน และรสจูบสัมผัสก็ให้ความรู้สึกดี เธอจึงอดไม่ได้ที่จะเข้าใกล้
"นี่!" ผู้กำกับดูไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่
"โม่หยู ช่วยทำหน้าให้ดูหื่นกระหายน้อยลงได้ไหม?
ทุกคนหัวเราะขึ้นทันทีที่เขาพูดจบ
เฉียวโม่หยูคำรามเบาๆและเม้มริมฝีปากเข้าด้วยกัน พูดอีกอย่างก็คือเธอชอบฟัดแก้มอ้วนๆของลั่วลั่วมาก นี่เธอแสดงออกชัดขนาดนี้เลยหรอ?
"ขอโทษค่ะผู้กำกับ ฉันจะพยายามอีกครั้ง" เธอขอโทษด้วยใจจริง
เวลานี้ เธอพยายามใจเย็นและนึกถึงละครในทีวีที่เธอเคยดู จินตนาการตามพระเอกและนางเอกในเรื่อง ทันใดนั้นก็มีความรู้สึกบางอย่างดึงดูดให้เธอเข้าใกล้ริมฝีบางคล้ายกลีบดอกไม้ของเย่เป่ยเฉิง
สายลมพัดมาทำให้ใบไผ่เสียดสีกันทำให้เกิดท่วงทำนองดนตรี เฉียวโม่หยูโน้มตัวลงไป ผมดำมันขลับของเธอคลอเคลียที่ใบหูของเย่เป่ยเฉิง ทิ้งความรู้สึกจั้กจี้
เขาได้กลิ่นน้ำหอมจางๆของหญิงสาว ซึ่งแตกต่างจากกลิ่นน้ำหอมที่หอมจนฉุนของชิงหว่านชวงระหว่างที่พวกเขาแสดงร่วมกันในฉากก่อนหน้านี้ มันเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆเหมือนกลิ่นของธรรมชาติ
เขารู้สึกถูกสัมผัสเบาๆที่ปลายจมูก และกลิ่นหอมธรรมชาติได้โอบล้อมเขาไว้
เขารู้สึกได้ ถึงแม้จะยังหลับตาอยู่ ทั้งยังสามารถจินตนาการถึงฉากนี้ได้ หญิงสาวคงจะเอียงอายใบหน้าซับสีแดงระเรื่อยามที่เธอก้มลงมาจูบเขาอย่างแผ่วเบา
"คัท!" ผู้กำกับเอ่ยขึ้นอย่างพอใจ
"เฉียวโม่หยู คุณแสดงได้ดีมาก อารมณ์ที่สื่อออกมาถูกแล้ว อย่าลืมความรู้สึกนี้ซะล่ะ!"
เฉียวโม่หยูถอนตัวออกนั่งตัวตรง เย่เป่ยเฉิงที่นอนหนุุนตักเธอก็ลุกขึ้นนั่ง เขาสังเกตเห็นว่าเธอยังดูงุนงง เขามองไปที่ดวงตาของเธอพยายามที่จะอ่านสายตาคู่นั้น
เธอเข้าใกล้เขาถึงสามครั้ง ครั้งแรกเธอแข็งทื่ออย่างกับถูกตอกตะปู และดูเหมือนจะปฏิเสธเขาอย่างแข็งขืน
ครั้งที่สอง เธอทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นเค้กที่เธอนำมาให้เขาที่ห้องรับรองก่อนหน้านี้
แต่ครั้งที่สามและครั้งสุดท้าย เขารู้สึกราวกับว่าถูกเธอตรึงไว้ในฉาก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้าใกล้และอินไปกับการแสดงของคนอื่น
ในขณะที่เขามองดูหญิงสาวที่ยังนั่งงุนงงอยู่บนพื้นอีกครั้ง เย่เป่ยเฉิงรู้สึกเป็นครั้งแรกว่าตัวประกอบหญิงคนนี้นั้นน่าสนใจ