Your Wishlist

The Heir Vampire (รัชทายาทแห่งโลกแวมไพร์) (Rewrite) (02 การกลับมา (Rewrite))

Author: Sayyeon

" การกลับคืนสู่ฐานันดรของเจ้าชาย นำเขากลับมาเพื่อช่วงชิงตำแหน่งของรัชทายาทแห่งไครซิสต์ ดินแดนของแวมไพร์ผู้ที่ไม่ประสงค์ต่อการดื่มเลือดและได้รับพรจากพระเจ้า การต่อสู้ของผู้ที่ถูกเลือกได้เริ่มขึ้นแล้ว "

จำนวนตอน : N/A

02 การกลับมา (Rewrite)

  • 20/05/2564

The Heir Vampire

ภาค 1 ศึกปะทะอัศวินแห่งความมืด

 

 

 

 

 

ลอว์เรนซ์ประคองเพื่อนรักของตนข้ามฝั่งมาได้จนเกือบถึงปลายสะพาน หิมะและหมอกที่หนาขึ้นทำให้ไม่มีรถหรือผู้คนสัญจรผ่านในช่วงเวลานี้ ทำให้บรรยากาศยามวิกาลยิ่งดูมืดทะมึนน่ากลัว ไอเย็นพ่นออกจากปากและจมูกที่พยายามเอาอากาศเข้าไปถี่มากขึ้น ใครจะรับรู้ได้บ้างว่าตอนนี้พวกเขารู้สึกเหนื่อยล้าเหลือเกิน


                      " ไหวรึเปล่าเดนนิส?"


                      " ฉันตอบว่าไม่ไหวได้ด้วยเหรอ"


บรู๋ววววววว!!

เสียงดังเห่าหอนคล้ายเสียงสุนัขหรืออะไรบางอย่างดังกึกก้องมาเล่นเอาเดนนิสที่กำลังพูดอยู่ถึงกับตกใจจนหยุดกึก เสียงนั่นยังคงดังไม่หยุดและเหมือนจะยิ่งใกล้เข้ามาทุกที... ลอว์เรนซ์หันมองรอบๆอย่างรวดเร็ว นัยต์ตาสีฟ้าคู่สวยเพ่งมองฝ่าหมอกหนาออกไปทั่วสารทิศ แต่ก็กลับไม่พบอะไรเลย แล้วเสียงน่ากลัวนั่นมัน...?

โฮกกกก! แฮ่!!


                    "เฮ้ยยย!!? พระเจ้า!"


                    "นั่นมัน! มะ..หมาป่า!"


ร่างของหมาป่าสีดำพุ่งออกมาจากเงามืด เขี้ยวสีขาวแหลมคมราวกับดาบสั้นอันน่าสยดสยองที่พร้อมจะสังหารแยกเขี้ยวขู่อยู่ตรงหน้าพวกเขา นัยต์ตาสีดำสนิทนั้นทั้งดุดัน น่าเกรงขามและโหดร้าย


                   "..หมาป่านี่ มันมาได้ยังไงกัน !? "


                  "สงสัยเหรอหนุ่มน้อย?"

ยังไม่ทันที่จะได้คำตอบ ร่างของอะไรบางอย่างก็เข้ามาประชิดตัวจนเดนนิสและลอว์เรนซ์ตั้งตัวไม่ทัน หญิงสาวสวยในชุดโค้ทยาวสีดำปรากฎขึ้นตรงหน้า สายตาและความรู้สึกที่มองลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้น ลอว์เรนซ์กลับรู้สึกได้ว่าเธอไม่ใช่คนธรรมดาและอาจจะไม่ใช่มนุษย์ เพราะเหมือนสัมผัสพิเศษบางอย่างในตัวเขากำลังบ่งบอกอยู่เช่นนั้น

               

                    "พวกแกน่ะออกมาต้อนรับแขกหน่อยเร็ว ! "

 

สิ้นสุดประโยคนั้นของหญิงสาว เด็กหนุ่มทั้งสองถึงกับจนมุมหนักเมื่อรอบๆตัวพวกเขาตอนนี้ มีหมาป่าประมาณ 7-8 ตัว ก้าวออกมายืนล้อมรอบดักไว้ทุกทาง พร้อมกับแยกเขี้ยววับขู่ ไม่มีทางที่จะหลบหนีออกไปไหนได้ นี่พวกมันเป็นใครกันแน่ แล้วหมาป่าพวกนี้มันคืออะไร?

 

                    "...หึๆไม่ต้องกลัวฉันไปหรอกนะ พ่อหนุ่มน้อย เธอกำลังคิดสินะว่าพวกเราเป็นใคร ต้องการอะไร และวิธีที่เธอคิดว่าจะฝ่าวงล้อมพวกเราออกไปได้ฉันไม่แนะนำหรอกนะ.. "

 

                   "..อึก"

เดนนิสหน้าซีดเผือดกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น เหมือนกับสิ่งที่อีกฝ่ายพูดนั้นมันตรงกับความคิดเขาทุกอย่าง

 

                  "แค่นี้น่ะจิ๊บๆเรียกน้ำย่อย...หมาป่าชั้นสูงอย่างฉันคนนี้น่ะมีพลังอ่านใจมนุษย์อย่างพวกแกนะจะบอกให้ "

 

พลังอ่านใจ...หมาป่างั้นรึ!? ลอว์เรนซ์นิ่งเงียบไม่สามารถคิดหาหนทางดีๆที่พอจะพาเขากับเพื่อนหนีไปจากดงพวกที่อ้างว่าตนเองเป็นมนุษย์หมาป่าได้ เขาจะทำยังไงดี

                  "นี่พวกแกน่ะเป็นใคร! ต้องการอะไรกันแน่!?"

 

                   "ฉันว่าฉันพูดไปแล้วนะเจ้ามนุษย์"

 

หญิงสาวยิ้มเจ้าเล่ห์ขณะที่เข้ามาใกล้เดนนิสพลางเชยคางเด็กหนุ่มขึ้นมาอย่างเบามือ หัวใจสองดวงที่หวาดกลัวหล่อนจนสุดตัวนั้นแทบจะกระโดดถอยหนี แต่เธอกลับไม่ปล่อยให้เป็นแบบนั้น มืออีกข้างที่เหลือพุ่งออกมาจับเส้นผมบนศีรษะของลอว์เรนซ์ดึงทึ้งขึ้นจนร่างของเขาลอยเหนือพื้น

                    "อ้ากก! ปล่อยนะะ!"

 

                    "เฮ้ยยย! แกจะทำอะไรวะ! ปล่อยลอว์เรนซ์เดี๋ยวนี้!"

 

เดนนิสปัดมือที่เชยคางเขาออกไปอย่างแรงพลันรีบรุดเข้ามาผลักตัวและจับแขนที่ดึงลอว์เรนซ์หวังให้คลายออก แต่ทว่าก็ไม่เป็นผล ซ้ำร่างของอีกฝ่ายยังไม่กระเด็นหรือแม้แต่จะขยับตามแรงผลักของเดนนิสเลยด้วยซ้ำ ราวกับว่าร่างกายของเธอเป็นเหล็กกล้าที่ปักหลักอยู่บนพื้นแถมยังมีแรงที่ยกลอว์เรนซ์ลอยขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ!!

 

                    "เกะกะ!"

 

ขาซ้ายยกขึ้นถีบร่างของเดนนิสไปด้วยความรวดเร็วและแรงมากจนเด็กหนุ่มกระเด็นลอยวืดไปตกอยู่ตรงหน้าพวกหมาป่าที่เฝ้ารออยู่

                    "เดนนิสสส! "

 

ลอว์เรนซ์ร้องเรียกเพื่อนที่ยังคงนอนกองแผ่หลาอยู่กับพื้นอย่างน่าเวทนา เขาดิ้นรนปัดป่ายมือสองข้างพยายามแกะทึ้งมือของเธอให้หลุดออกไป

 

                  "เอาล่ะ..เสียเวลามามากแล้ว ฉันจะเข้าเรื่องสักที"

 

                   "อึก...ปล่อยฉันนะ!!"

 

                  "..ทั้งที่ฉันอ่านใจของไอ้เด็กโสโครกนั่นออกหมดทุกอย่าง แต่กับแกฉันพิสูจน์จนแน่ใจว่าทำไม่ได้"

"...??"

 

                  "นี่แกเป็นใครกันแน่ห้ะไอ้หนู? เผ่าพันธุ์อื่นไม่สามารถที่จะต่อสู้ในเรื่องพลังการอ่านใจนี้ของหมาป่าอย่างพวกเราได้ นอกจากพวกแวมไพร์..."

 

คำๆนี้สะกิดเรื่องราวในหัวสมองที่เกือบจะลืมเลือนไปแล้วให้กลับมาอีกครั้ง คำพูดของผู้หญิงชื่อซีเบลคนนั้นลอยกลับเข้ามา ทำให้หัวใจที่หนักอึ้งราวกับกำลังจะได้รับคำตอบของอะไรบางอย่าง ภาพของชายในความฝันและโลกในอีกมิติที่เขาชอบคิดว่าตัวเองเพ้อเจอมันปรากฎขึ้นมาตีกันยุ่งในหัวเต็มไปหมด

 

                    "แกพูดเรื่องอะไร...ฉันไม่รู้เรื่อง อั้กก!!"

 

หมัดซ้ายพุ่งชกอัดหน้าเด็กหนุ่มเต็มแรง กลิ่นคาวเลือดเริ่มคละคลุ้งบริเวณจมูก ในปากมีรสเค็มเฝื่อนน่าขยะแขยง เสียงพวกหมาป่าเห่าหอนราวกับสะใจในความร้ายกาจของผู้เป็นนาย

 

                    "แกเป็นเเวมไพร์สินะ แต่ยังเยาว์วัยหล่อเหลาขนาดนี้ เอาตัวกลับไปล่ะก็ คงจะใช้ต่อกรอะไรได้อีกเยอะ ดูจากจี้ห้อยคอนั่นมันก็คงเป็นของที่ตระกูลแกให้เอาไว้ล่ะสิ..."

 

ลอว์เรนซ์ก้มใบหน้าอาบเลือดมองจี้ห้อยคอสีเงินซึ่งติดตัวมาตั้งแต่จำความได้ ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปว่าเขาได้มันมาจากไหนหรืออะไรยังไง นอกจากชื่อลอว์เรนซ์ที่สลักอยู่ถูกนำมาใช้เป็นชื่อปัจจุบันของเขาเท่านั้น

 

                     "...ฉันไม่รู้ ฉันเป็นแค่เด็ก..เด็กกำพร้า"

 

                    "จี้ห้อยคอที่แกใส่มันมีไอมนต์อยู่ เป็นมนต์ของพวกแวมไพร์ และพวกที่จะมีของแบบนี้ได้ก็มีแต่พวกราชวงศ์สูงศักดิ์...หึๆๆ แกนี่มันไม่ธรรมดาเลยนะ"

 

เธอยิ้มเจ้าเล่ห์และกดจิกผมของเขาจนต้องร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด เขาไม่เข้าใจสักนิดว่าที่เธอพูดมันหมายถึงอะไร !?

 

                  "แกต้องไปกับพวกเรา.."

 

ปี๊ดดดดด!!

เสียงของอะไรบางอย่างคล้ายกับเสียงเป่าของ...นกหวีด!

"เกิดอะไรขึ้น! ใครเป่า.."

เธอหันไปมองที่มาของเสียงก็พบเดนนิสซึ่งถูกพวกหมาป่ากัดแขนเสื้อจับกุมตัวไว้มีนกหวีดคาอยู่ที่ปาก มันคือนกหวีดสีเงินที่ได้จากคุณซีเบล ซึ่งสำหรับเดนนิสมันคงเป็นทางเลือกที่ไม่อาจเลี่ยงและเขาไม่ได้ปรารถนาว่ามันจะช่วยอะไรได้มากมายนัก แต่ในชั่วขณะที่สมองสั่งการว่า เขายังไม่อยากตาย นี่อาจเป็นแค่สิ่งสุดท้ายที่จะทำได้

 

                   "นี่แกเป็นบ้าอะไรห่ะ อยากตายนักเหรอไง "

 

                   "ฉันไม่ยอมให้ตายหรอก"


ฟึ่บบบ!!

โฮกกกกกก!!

เสียงหมาป่าพากันเห่าหอนเสียงหลงเมื่อมีแสงสีทองแปลกประหลาดวาบพุ่งเข้าใส่มาจากหลายสารทิศ เสียงจากเงามืดเมื่อครู่หายไปแล้ว แต่เมื่อหมอกจางลง ร่างบางคุ้นตาของเธอคนนั้นที่เขากำลังนึกถึงกลับปรากฎอยู่ไม่ห่างจากพวกเขา หมาป่าเหล่านั้นไม่สามารถช่วยอะไรได้นอกจากร้องคำรามอย่างน่าเวทนา ดิ้นพรวดพราดอยู่บนพื้นหิมะเย็นเยียบ บนตัวของมันมีสิ่งที่คล้ายกับเชือกสีทองรัดเเน่นไปทั่วทั่งลำตัว แม้จะพยายามใช้แรงมากแค่ไหนก็หลุดออกมาไม่ได้

 

                   "เปล่าประโยชน์น่า..."

 

เสียงของร่างบางนั้นดังขึ้นอีกครั้ง เป็นเสียงของผู้หญิงที่ทำเอาลอว์เรนซ์และเดนนิสตกตะลึง ซีเบล สกอร์เวียร์ ก้าวเดินออกมาด้วยท่วงท่างามสง่า ผมสีบรอนด์ยาวสลวยบวกกับนัยต์ตาสีฟ้าซึ่งตอนนี้แลดูน่ากลัวผิดไปจากที่เจอกันครั้งแรกมากนั้น ชุดโค้ทยาวสีขาวของเธอแทบจะกลืนไปกับหมอกและหิมะ

 

                "...คุณซีเบล "

 

               "หืม? ไม่นึกเลยนะว่าที่อาณาเขตแถวนี้จะมีแวมไพร์อย่างแกซุ่มดูพวกเราอยู่เหมือนกัน "

 

ลอว์เรนซ์ยิ่งมองตาโตด้วยความงุนงงหนัก เมื่อกี้เธอพูดว่าคุณซีเบลเป็นแวมไพร์งั้นเหรอ


                 "  ตายจริง...งั้นไอ้เด็กนี่ก็เป็นหนึ่งในว่าที่ราชนิกูลคนสำคัญสินะ ช่างน่าสงสารซะจริงที่ต้องมาอยู่ในสภาพที่น่าเวทนาเช่นนี้ "

 

                 " เอามือสกปรกของเธอออกไปจากท่านผู้นั้นซะ ไคร่า "


ซีเบลตอบกลับแบบไม่ทุกข์ร้อนแม้สีหน้าจะยังคงจริงจัง

 

               "รู้จักชื่อฉันขนาดนี้แปลว่าฉันฮอตเหมือนกันนะเนี่ย หึๆ "

 

ไคร่าเองก็กลับมาสวมบทเจ้าเล่ห์อีกครั้ง ความตกใจเมื่อครู่กับการมาของซีเบลหายไปแล้ว นัยต์ตาสีดำสนิทจ้องมองอีกฝ่ายกลับอย่างถือดี


                 "  ฉันจับตาดูมาสักพัก เพราะกลิ่นของแวมไพร์ที่น่ารังเกียจในตัวมันคงกำลังทำงานอย่างดีเมื่อเติบโต แล้วก็ดูเหมือนว่าฉันจะได้ผลงานชิ้นโบว์แดงซะแล้วนะงานนี้  "

 

                " เป็นหมาก็อยู่ส่วนหมาไปสิ ฉันคนนี้อุตส่าห์นิ่งเงียบแล้วแท้ๆนะ"

 

                " ไม่ได้หรอก ถ้าพวกมันก้าวผ่านเข้ามาด้วยความไม่รู้ นั่นแหละคือความผิดของตัวมันเอง ถ้าอยากได้ตัวเด็กนี่นักล่ะก็ เข้ามาเอาเองสิ "

 

                " แล้วเธอจะต้องเสียใจที่พูดแบบนั้นออกมา "

 

พูดจบประโยคร่างของซีเบลก็หายวับไปทันที แต่แล้วก็โผล่ฟึ่บเข้ามาประชิดตัวไคร่า ซึ่งไคร่าก็คงจะกะเอาไว้แล้ว เธอจัดการซัดหมัดซ้ายและเท้าคู่กายเข้าต่อสู้ตอบโต้โดยไม่เพลี่ยงพล้ำง่ายๆแม้กระทั่งว่ามีลอว์เรนซ์ถูกหิ้วติดมืออยู่แบบนี้ การต่อสู้นั้นรุนแรงและรวดเร็วมากจนแทบมองตามไม่ทัน แต่ที่แน่ๆทั้งสองคนนี้ไม่ใช่มนุษย์และตัวเขากำลังเป็นหัวข้อในการทะเลาะวิวาทครั้งนี้ที่กำลังรุนแรงไปถึงขั้นต้องฆ่ากันตายไปข้างหนึ่ง ไอมนต์สีขาวเริ่มปกคลุมล้อมรอบตัวทั้งสามเป็นวงกลม มันพุ่งเข้ามาพร้อมกับไอร้อนที่รุนแรงมากจนแทบไหม้ผิวหนัง

 

                 "อ้ากกก!!"

 

เสียงร้องโหยหวนของเด็กหนุ่มท่ามกลางมนต์นั้นแทบจะคลั่งเพราะผลกระทบที่มายังเขาเต็มๆ แสงสีขาวนั่นอาบร่างทั้งเขาและซีเบล มันร้อนจนกรีดเนื้อและผิวหนัง

 

                     "นายท่าน! "

 

ซีเบลร่ายเวทย์คลุมร่างตัวเองทันก็จริงแต่มนต์นั่นกลับช่วยเด็กหนุ่มในมือของหมาป่าสาวชั่วช้านั่นไม่ทันเสียแล้ว ร่างกายของเขากำลังจะถูกแผดเผา!

 

                    "แก!"

 

ซีเบลชักดาบที่พาดไว้ข้างหลังออกมาก่อนจะฟันฉับไปยังแขนข้างที่จับลอว์เรนซ์เอาไว้อย่างไม่ลังเล

 

                  "อ้าก! นังตัวแสบบ!"

 

แขนขวานั่นหลุดกระเด็นเลือดสาดกระเซ็นไปโดยรอบ เดนนิสที่พึ่งหายช็อคจากเหตุการณ์ทั้งหมดรีบวิ่งเข้ามารับตัวลอว์เรนซ์ที่ตกลงมากองกับพื้น ใบหน้าของเขาเลอะไปด้วยของเหลวสีแดงคล้ำ พร้อมกับเสียงที่ยังคงร้องโหยหวนด้วยความปวดแสบปวดร้อน ส่วนผิวหนังเริ่มมีเลือดซึมออกมาอย่างกับว่ากำลังจะปริแตกในไม่ช้า!

 

                 "คุณซีเบล! ช่วยเพื่อนผมด้วยย!"

 

เดนนิสน้ำตานองหน้าเมื่อไม่อาจจะช่วยเพื่อนที่ทุกข์ทรมานอยู่ตรงหน้าได้ หัวใจกระตุกวูบด้วยความหวาดกลัว มือทั้งสองข้างที่ประคองร่างของเพื่อนสั่นเทาและกระชับแน่น หัวสมองแทบจะประมวลเป็นคำพูดออกมาไม่ได้อีกต่อไป  ด้วยความที่ยังเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่ไม่ประสีประสาคนหนึ่งเท่านั้น 

 

                   "นายท่าน!"

 

                   "ทำอะไรสักอย่างสิครับ! ลอว์เรนซ์กำลังจะตายนะ! "

 

                   " เดนนิส เราต้องตั้งสติก่อน ฟังฉันนะ นายท่านจะต้องไม่เป็นอะไร"

 

ซีเบลหลับตาลงรวบรวมสติและสมาธิให้ดีอีกครั้ง เธอร่ายมนต์สร้างอาณาเขตป้องกันขนาดเล็กขึ้นเพื่อเป็นการถ่วงเวลาไคร่าที่แม้ว่าจะถูกดาบตัดแขนขวาไปก็ตาม แต่ด้วยอานุภาพพลังของหมาป่า ร่างกายที่มีเซลล์แข็งแกร่งกว่าทุกข์เผ่าพันธ์แบบนั้นสามารถงอกออกมาใหม่ได้อย่างน่าอัสจรรย์ มันคือความสามารถทางกายภาพชั้นสูง ที่แม้แต่แวมไพร์ยังไม่อาจทำได้

 

                  " พรศักดิ์สิทธิ์แห่งราลเดรูลน์จงมาสถิตย์ ณ ที่นี้ "

 

เสียงท่องมนต์แผ่วเบานั่นจบลงพร้อมกับนิ้วมือเรียวยาวที่เข้ามากดบริเวณหน้าผากของลอว์เรนซ์ นัยต์ตาสีฟ้าเบิกโพลงด้วยความตกใจเมื่อรู้สึกว่า  มีพลังบางอย่างไหลหลั่งผ่านเข้ามาในร่างกาย หัวใจเริ่มเต้นรัวเร็ว ร่างกายที่กำลังจะถูกแผดเผาหยุดชะงักลง

 

                 "อ้ากกกก! ปวด..ปวดหัววว!"

 

                 "ลอว์เรนซ์! เฮ้ยย! ทำใจดีๆไว้ก่อน"

 

เพล้งงง!

อาณาเขตเวทย์ที่สร้างขึ้นถูกพังทลายลงแล้ว ซีเบลหันกลับไปทางนั้น ก็พบไคร่าที่ยืนอยู่ด้วยใบหน้าที่โกรธจัด แขนที่ถูกฟันขาดนั่นกลับคืนสภาพเรียบร้อย แต่ใบหน้าของหญิงสาวหมาป่าผู้นั้นกลับเต็มไปด้วยแรงอาฆาตและความโกรธแค้นที่ปะทุขึ้นทุกขณะ

 

                    "ฝากนายท่านด้วยนะ ฉันจะจัดการยัยนี่ก่อน"

 

ซีเบลเอ่ยกับเดนนิสโดยที่ไม่หันหลังกลับไปมอง ไคร่าแสยะยิ้มชั่วร้าย ขณะที่ร่างกายเปลี่ยนแปลงไปจากหญิงสาวกลับใหญ่โตขึ้นกลายเป็นหมาป่าสีขาวดุจสีหิมะที่แตกต่างกับลูกสมุนพวกนั้นมากนัก ขนสีขาวหนาที่ปกคลุมและเขี้ยวยาวที่แยกออกมาทำให้ไคร่าดูน่ากลัวซึ่งนี่เป็นร่างจริงที่มีความกำยำแข็งแรงและอันตรายมากกว่าร่างมนุษย์มากนัก ซีเบลเริ่มตั้งท่าเตรียมพร้อม กระชับดาบเล่มยาวในมือแน่น

 

                    "แกจะต้องตายด้วยน้ำมือฉัน..นังแวมไพร์ตัวแสบ!"

 

                    "...คิดว่าทำได้ก็เข้ามาเลย "

 

การต่อสู้ระหว่างหมาป่าสีขาวและซีเบลได้เริ่มต้นอีกครั้งด้วยพลังเวทย์ของแวมไพร์และความแข็งแกร่งด้วยพลังของหมาป่า ทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างไม่มีใครยอมใคร เสียงดาบที่เสียดสีกับเขี้ยวแหลมคมดังบาดหูไปหมด เดนนิสควบคุมสติที่เกือบจะหลุดกระเจิงหนีหายไปอีกรอบ รีบลากตัวลอว์เรนซ์ที่ยังคงแผดร้องโหยหวนเป็นระยะออกไปให้ไกลจากวงล้อมของไอเวทย์ ตอนนี้เพื่อนของเขาหมดเรี่ยวหมดแรงไปมาก ท่าทางกำลังเจ็บปวดทรมานกับบางสิ่งที่เขามองไม่เห็น

 

                     "ลอว์เรนซ์..เฮ้ยย!  ไหวไหม เป็นอะไร ตอบฉันสิเร็วเข้า"

 

นอกจากเสียงกรีดร้องที่ดังต่อเนื่อง เดนนิสก็ไม่ได้ยินคำตอบอะไรอีกเลย ลอว์เรนซ์เอาแต่กุมขมับทั้งสองข้าง ร้องปวดไม่หยุด...จนในที่สุดก็ล้มลงไป

 

                    "เฮ้ยยย! ลอว์เรนซ์ ลอว์เรนซ์!"

 

เสียงสุดท้ายที่ได้ยินคือเสียงเพื่อนรักของเขา...ลอว์เรนซ์ปิดเปลือกตาลง ความเจ็บปวดที่ผ่านมาเบาบางลงไป หัวใจที่เต้นรัวแรงกลับมาเต้นตามจังหวะปกติอีกครั้ง เวทย์มนต์บทที่ซีเบลท่องนั้นฉาบร้อนอยู่บนหน้าผาก จิตใจของเขาเหมือนกับจะหลุดเข้าไปในอะไรบางอย่าง...นั่นมัน โลกในความฝันที่เขามองเห็นนี่นา...

 

                   '...ผมเกลียดพวกเขา เกลียดทุกคนที่คอยกลั่นแกล้งผม พลังของผมสิคือพลังที่ยิ่งใหญ่! '

 

ภาพของเด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งยืนประจันหน้าอยู่กับชายคนหนึ่งที่น่าจะเป็นพ่อของเขา พร้อมกับคำพูดยโสโอหังเกินตัว

             

                  '...พลังของลูกนั้นเป็นภัย มันไม่ใช่พลังที่ควรจะเอามาใช้คร่าชีวิตใคร.. '

 

                 ' ท่านพ่อก็รู้ว่าผมน่ะจะยิ่งใหญ่ให้ได้เหมือนท่านพ่อ '

 

                 'ความหยิ่งยโสและเย็นชา ไร้จิตใจของลูก ไม่ใช่หนทางแห่งความยิ่งใหญ่ '

 

ทุกสิ่งที่เขารับรู้และได้ยินน้้น...มันชัดเจนถึงเรื่องราวทั้งหมด หัวใจเกิดหนักอึ้งอีกครั้งเมื่อภาพต่อมาคือผู้เป็นพ่อที่ยอมทอดทิ้งลูกชายตัวน้อยให้มาสถิตย์ยังดินแดนของมนุษย์ ความทรงจำนั่นมันหวนกลับคืนมา เปรียบได้กับม้วนฟิล์มที่ฉายภาพเวลาแห่งความทรงจำ แล้วที่สำคัญเด็กนั่นก็คือ...ตัวเขาเอง

บุตรชายของกษัตริย์แวมไพร์แห่งอาณาจักรราลเดรูลน์ นามว่า ' ลอว์เรนซ์  เซอแลนเซียร์  เวสเบิร์ก ' เด็กน้อยผู้ถือครองพลังต้องห้ามและความเย็นชา ไร้หัวใจ...ท่านพ่อส่งเขามาที่โลกแห่งนี้เพื่อที่จะสั่งสอนให้เขาได้เข้าใจถึงความยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงว่าเจ้าชายอย่างเขาควรจะทำตัวเช่นไรและกำลังซ่อนตัวตนของเขา จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม ที่ความจริงและโชคชะตาจะนำทางให้เขาเข้าใจถึงจิตใจที่ดีงามของผู้คน พลังต้องห้ามที่สถิตย์อยู่ในร่างและความปรารถนาอันผิดเพี้ยนในวัยเยาว์ส่งผลให้ตนเองต้องถูกพลังนั้นกลืนกิน ความทรงจำและภาพมากมายเหล่านั้นกำลังปรับจูนเข้ามาในหัวสมอง แม้มันจะไม่ใช่ทั้งหมด แต่ก็พอที่จะทำให้ลอว์เรนซ์เริ่มเข้าใจแจ่มชัดถึงอดีตของเขาเองที่ต้องถูกเก็บเป็นความลับมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ลอว์เรนซ์ลืมตาฟื้นขึ้นมา อาการปวดหัวเพราะเวทย์มนต์ที่ช่วยคืนความทรงจำให้เขาได้หายไปแล้ว เขาสามารถจดจำทุกอย่างและรู้เเล้วว่าตัวเป็นใคร..


                     "ลอว์เรนซ์.."

 

เดนนิสพูดอะไรไม่ออก เขาดีใจที่เพื่อนรักฟื้นคืนสติขึ้นมาอย่างปลอดภัย แต่แววตาแบบเดิมของลอว์เรนซ์คนเดิมที่เขาเคยรู้จักได้หายไปแล้ว เหลือแต่ใบหน้าหล่อเหล่าที่เรียบเฉย ดูนิ่งสงบและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน

 

                  "...นายท่าน! "

 

ซีเบลวาร์ปกลับเข้ามายืนข้างกายลอว์เรนซ์ผู้ได้ความทรงจำกลับคืน นายท่านคนเดิมของเธอได้ฟื้นคืนชีพกลับมาแล้ว

 

                 "นายท่าน ฉันคือองครักษ์ประจำตัวของท่านค่ะ"

 

                 "เธอคือคนของท่านพ่อใช่ไหม"

 

ลอว์เรนซ์เอ่ยอย่างนิ่งสงบ ขณะที่ก้าวเท้าเดินออกไปเพื่อประจันหน้ากับไคร่าที่ตอนนี้สภาพเหนื่อยล้าขึ้นมานิดหน่อย ส่วนซีเบลหากฝืนสู้ต่อไปคงต้องพ่ายแพ้แน่นอน ไคร่าเผยยิ้มออกมาในคราบหมาป่า เธอหัวเราะลั่นขบขันความละอ่อนของซีเบลและเด็กหนุ่มตรงหน้าที่บัดี้แววตาได้เปลี่ยนไปแล้ว เขาไม่มีทีท่าว่ารู้สึกกลัวเธอเลยแม้แต่น้อย ใบหน้านั้นนิ่งสงบราวกับแาบไปด้วยน้ำแข็ง นัยต์ตาสีฟ้าคู่สวยมองไปยังใบหน้าของหมาป่าสาวอย่างถือดี

 

                     " อะไรกัน แกถูกฉันทึ้งหนังหัวจนสมองก็หลุดตามออกมาด้วยรึไงกัน ไอ้ท่าทางอวดดีนั่นมันอะไร "

 

นางหมาป่าสีขาวเริ่มแผลงฤทธิ์เดชชั่วร้ายอันแรงกล้าของพลังด้านมืดที่พร้อมจะคร่าทุกชีวิตให้จบสิ้นออกมา ซีเบลมีอาการบาดเจ็บบริเวรแขนและขาที่เลือดเริ่มไหลนอง บนกองหิมะสีขาวที่เธอยืนค้ำอยู่นั้นเต้มไปด้วยเลือด เพราะยังมีหมาป่าลูกสมุนที่พยายามเข้าแว้งกัดเธอจากหลายทิศทางจนเริ่มต้านไม่อยู่  ลอว์เรนซ์ก้าวเดินเข้ามาขวางเพื่อป้องกันซีเบลและเดนนิสเอาไว้ เขาจ้องเขม็งไปยังไคร่าในทันที

 

                    "...ละ ลอว์เรนซ์"

 

                    "นายท่าน จะทำอะไร"

 

                    "...ท่านพ่อต้องการให้ฉันเลิกนิสัยเสียนั่น ความไร้จิตใจและจิตสำนึกนั่นทำให้ฉันใช้พลังเพื่อคร่าชีวิตผู้อื่น ความยิ่งใหญ่ที่แท้จริงคือการที่ฉันใช้พลังเพื่อปกป้องพวกพ้องและหัวใจที่ดีงาม ฉันจะไม่มีวันลืมอีกแล้ว..."

 

ลอว์เรนซ์เอ่ยอย่างสุขุมและแผ่วเบา เขาไม่รู้เลยว่าความคิดแบบนี้จะถูกหรือไม่  แต่ในตอนนี้สิ่งที่สถิตย์อยู่ในร่างของเขาจากที่ใครๆเคยหวาดกลัวว่ามันคงส่งผลร้ายแรงในอนาคต เขาจะต้องเป็นฝ่ายควบคุมและใช้มันให้เป็นประโยชน์ให้ได้  ลอว์เรนซ์ปิดเปลือกตาลงทั้งสองข้างอย่างสงบ พยายามรวบรวมสมาธิ จิตใจของเขากำลังทะยานเข้าสู่ห้วงของสิ่งที่เรียกกันว่า 'คำสาปร้ายและพลังต้องห้าม'  พลังนั้นเริ่มเอ่อล้นเข้ามาภายในร่างกาย ดวงตาทั้งสองข้างเบิกโพลงขึ้นอีกครั้งแต่มันกลับเริ่มแปรเปลี่ยนสี จนกลายเป็นสีแดงเข้มแทนที่ ฝ่ามือทั้งสองข้างกำแน่นขณะที่เวทย์มนตร์สีแดงก่ำและแสงสีแดงพร้อมไอมนต์อันแรงกล้าและดูชั่วร้ายพุ่งออกมาจุดศูนย์กลางที่ลอว์เรนซ์พยายามบังคับจิตให้ตั้งมั่นเพื่อควบคุมมัน ขณะที่ไคร่าเองก็เริ่มตั้งท่าเตรียมพร้อมไม่แพ้กัน ร่วมกับหมาป่าลูกสมุนอีกหลายตัวที่คิดจะเข้ามารุมสกรัมพวกเขาทั้งสามอย่างไร้ปราณี  โดยหารู้ไม่ว่านั่นคือทางเลือกแห่งจุดจบที่กำลังย่างกรายเข้ามา


                      'พลังต้องห้ามเอ๋ย...ข้าจะไม่ใช้เจ้าเพื่อเปลี่ยนความเห็นแก่ตัวเป็นความยิ่งใหญ่...'


สิ้นสุดห้วงความคิดนั้นพลังต้องห้ามอันเหลือล้นก็ถูกผู้ควบคุมอย่างลอว์เรนซ์ปลดปล่อยมันออกไป

 

 

 

 

 

 


  - โปรดติดตามตอนต่อไป-

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป